*ปอท.รณรงค์ โพสต้องคิด... คลิกเสี่ยงคุก เตือนปชช.ต้องรู้เท่าทันสื่อออนไลน์*

การใช้สื่อออนไลน์อย่างปลอดภัย ในวันนี้  กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ปอท.)  จัดกิจกรรมรณรงค์"โพสต้องคิด...คลิกเสี่ยงคุก" ภายใต้โครงการ"ออนไลน์ใสสะอาด...เรารักในหลวง" ที่ลานเซ็นทรัลคอร์ท ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ล เพื่อเป็นการรณรงค์ให้ความรู้กับประชาชนเข้าใจกฎหมายในการใช้สื่ออนไลน์อย่างปลอดภัย และให้ประชาชนรู้ทันกลอุบายต่าง ๆ เพื่อสามารถป้องกันตนเองไม่ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์โครงการ นางสาวปนัดดา วงษ์ผู้ดี ดารานักแสดงและพิธีกรชื่อดัง

พ.ต.อ.สมพร แดงดี รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวว่า ไม่ต้องการให้ประขาชนตกเป็นเหยื่อ  หรือผู้กระทำผิดเสียเองเพราะการ กดไลค์ หรือกดแชร์อาจเข้าข่าย โดยไม่สามารถใช้คำว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์มาเป็นข้ออ้างตามกฎหมายได้  ซึ่งแม้บางคนรู้กฎหมายอยู่แล้วแต่ชะล่าใจว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการได้  แต่ความเป็นจริงความผิดเทคโนโลยีสืบง่ายว่าปกติเพราะมีหลักฐานที่ชัดเจนเป็นวิทยาศาสตร์ 

ส่วนสถิติคดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง เมื่อเปรียบเทียบ มีสถิติร้องเรียนน้อยลง โดยสถิติไม่ได้เน้นว่าเป็นเพราะรัฐบาลใด แต่ขึ้นอยู่เป็นห้วงเวลา และสถานการณ์ในขณะนั้น

พ.ต.อ.สมพร  กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของแฮกเกอร์ที่ประกาศจะโจมตีเว็บไซด์ของรัฐเพื่อต่อต้านนโยบายซิงเกิ้ลเกตเวย์ว่า เรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องระดับนโยบาย ซึ่งไม่สามารถตอบแทนได้ แต่ปอท.ก็มีการเฝ้าระวังความเคลื่อนไหวในเขิงการป้องกันและปรายปรามอยู่แล้ว  

ด้านนางสาวปนัดดา  กล่าวว่า เคยตกเป็นเหยื่อตัดต่อนำรูปภาพไปใส่รูปโป๊ ซึ่งก็ได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว ส่วนกรณีเพจดังใน เฟสบุ๊ค โพสโจมตี กรณีที่งไปไกล่เกลี่ยคู่กรณีที่มีการทำร้ายคนท้อง นางสาวปลัดดา อยากขอให้ผู้โพสคำนึงถึงจรรยาบรรณ มีความรับผิดชอบต่อสังคม เพราะเพจต่างๆ ก็ถือผู้นำทางความคิดกลุ่มหนึ่ง จึงควรสืบหาข้อมูลมาให้ถูกต้อง ทั้งนี้ยืนยันว่าจะดำเนินการฟ้องร้องกับบางเพจที่ยังไม่ออกมาแสดงความขอโทษ

นอกจากนั้น ปอท. ได้รวบรวม 10 พฤติกรรมที่ประชาชนมักกระทำผิดที่อาจทำให้มีความผิดร้ายแรงจนติดคุกได้ ได้แก่ upload รูปลกมกอนาจารณ์ /ปล่อยข่าวลือทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย/ ตัดต่อภาพทำให้เจ้าของภาพเสียหาย /แอบขโมยข้อมูลของผู้อื่นไปใช้/ กุเรื่องใส่ร้ายป้ายสีให้ผู้อื่นเสียหาย / แอบดูและดัดแปลงของผู้อื่น / ส่งต่อข้อมูลเขิญสร้างความรำคาญ / แชร์ข้อมูลโดยไม่คัดกรองความเป็นจริง /และโพสต์ข้อความที่หมิ่นสถาบันเบื้องสูง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีมาตรการลงโทษอย่างจริงจัง ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ที่อาจมีโทษจำคุกถึง 15 ปี หลังการเปิดงานภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ลร่วมได้มีการนำขบวนรณรงค์ในกิจกรรม จากศูนย์การค้เซ็นทรัลเวิลด์บริเวณสกายวอร์ค ไปยังสถานีรถไฟฟ้าBTS สยาม เพื่อให้ความรู้กับประชาชน อีกด้วย

ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี  -ภาพ