+++วันสำคัญ 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี(ครม.) ผู้นำเหล่าทัพ ข้าราชการ หลายหน่วยงาน ร่วมกันวางพวงมาลาเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระบรมราชานุสรณ์ พระลานพระราชวังดุสิต วันนี้เป็นวันสำคัญของคนไทยทุกหมู่เหล่า ต่างน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ สักการะบูชาพระบรมราชานุเสาวรีย์ พระบรมรูปทรงม้า เนื่องในวันปิยมหาราช พร้อมใจถวายราชสักการะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ด้วยความจงรักภักดี
+++สถานการณ์หมอกควันในหลายจังหวัดทางภาคใต้ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ที่กองบิน 56 อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา เตรียมพร้อมขึ้นบินทำฝนเทียมทันที หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย เพื่อบรรเทาความหนาแน่นของหมอกควันไฟ ทีมฝนหลวง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีอยู่ 2 พื้นที่ คือ จ.สงขลาและ จ.กระบี่ แต่เนื่องจาก จ.สงขลา มีสภาพทัศนวิสัยไม่ดี จึงไม่สามารถปฏิบัติการได้ ได้ปรับแผนให้ทีมฝนหลวง จ.กระบี่ ย้ายไปปฏิบัติการที่ จ.ตรัง ใกล้เคียงกับพื้นที่สงขลาและจังหวัดชายแดนใต้ โดยให้เร่งปฏิบัติการทันทีเมื่อสภาพอากาศเอื้ออำนวย
+++นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทย มีหนังสือสั่งการด่วนที่สุด ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 12 จังหวัด ในพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ ตรัง พัทลุง นครศรีธรรมราช ภูเก็ต สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เร่งดำเนินการทั้งเรื่องการนำรถบรรทุกน้ำ ฉีดพ่นละอองน้ำในพื้นที่ชุมชนที่มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น เพื่อลดความเข้มของฝุ่นละอองในอากาศ หากพื้นที่ใดคุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่สูงกว่า 350 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรผู้บริหารโรงเรียน สถานศึกษาในสังกัด รวมถึงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกาศหยุดเรียนได้ เป็นต้น
+++น.ส.พะเยา เมืองงาม ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก กล่าวว่า วิกฤตหมอกควันจะเริ่มคลี่คลายลงตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคมเนื่องจากลมเปลี่ยนทิศ โดยพบว่าความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่จะลงมาจากประเทศจีน มาถึงจีนตอนใต้แล้ว คาดว่าวันนี้ถึงประเทศไทยตอนบน และตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม จะเปลี่ยนเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือ คือ พัดจากทะเลจีนใต้เข้ามาทางอ่าวไทย และภาคใต้ จะทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกเพิ่มขึ้น
+++สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นวาระร้อนวาระสำคัญที่เวทีรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอาเซียนจะนำขึ้นมาหารือและกดดันอินโดนีเซียหาทางแก้ไขในการประชุมวันที่ 26-31 ตุลาคม ที่เวียดนาม และจะต้องมีมาตรการแนวทางป้องกัน เช่น การเพิกถอนใบอนุญาตบริษัทที่เป็นต้นเหตุด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
+++นายเฮนรี เพอร์โมโน นักวิทยาศาสตร์แห่งศูนย์วิจัยป่าไม้ระหว่างประเทศ ขยายวงกว้างไปถึงจังหวัดปาปัว ซึ่งปกติไม่เคยเผชิญไฟป่าในวงกว้างเช่นนี้ อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการดับไฟป่าจนถึงเดือนธันวาคม หรือมกราคมปีหน้า เพราะผู้คนไปถางและเผาเพื่อเปิดพื้นที่การเกษตรอย่างน้ำมันปาล์ม
+++ ด้านนายแพทย์สมชัย เจียรนัยศิลป์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง และรองประธานหอการค้าจังหวัดตรัง ห่วงว่า หากสถานการณ์ยังคงยืดเยื้อต่อไปจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว หรือไฮ ซีซันของภาคใต้ฝั่งอันดามัน จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวทันที โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งให้ความสำคัญต่อเรื่องสิ่งแวดล้อม จะรู้สึกกังวลต่อสถานการณ์แบบนี้ และอาจเปลี่ยนไปท่องเที่ยวยังจุดอื่นแทน
+++ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวชาวไทยเอง ปัจจุบันก็มีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น ยิ่งขณะนี้กำลังเข้าสู่ช่วงหน้าหนาว ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวทางภาคเหนือหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับความนิยมสูงอยู่แล้ว ดังนั้นหากภาคใต้ยังคงเกิดมีปัญหาหมอกควันยาวนาน จะทำให้ นักท่องเที่ยวชาวไทยบางส่วนหันไปท่องเที่ยวภาคอื่นแทน
+++ เมื่อช่วงหัวค่ำ เกิดไฟไหม้ โกดังเก็บสินค้าสุราษฎร์ เสียหายทั้งหลัง เสียหายจำนวนมาก จุดที่เพลิงไหม้เป็นโกดังเก็บสินค้าห้างหุ้นส่วนจำกัด สุชินกรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของ จ.สุราษฎร์ธานี เลขที่81/69 ตำบลบางกุ้ง อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพลิงลุกไหม้นานเกือบ 2 ชั่วโมง ต้องใช้รถดับเพลิงถึง 20 คันเร่งระดมน้ำในการดับไฟ เบื้องต้นเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
+++จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดขึ้น 1-2 ครั้งจากนั้นตามด้วยเปลวไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จึงควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังหมู่บ้านจัดสรรที่อยู่ล้อมรอบ โดยระดมฉีดน้ำรอบโรงงานทุกด้าน จนกระทั่งไฟลุกไหม้นานประมาณ 1 ชั่วโมงมีฝนตกโปรยปรายลงมาแต่ไม่สามารถดับไฟได้ทั้งหมด ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไม่ให้ไฟลุกไหม้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเวลา 22.00 น.สามารถควบคุมเพลิงได้ทั้งหมด ประกอบกับมีฝนตกลงมาเป็นระยะ ๆ จึงทำให้ดับไฟได้ทั้งหมด และสำหรับคลังสินค้าดังกล่าวเป็นที่เก็บสินค้าและยังเป็นโรงงานผลิตขนมเกือบทุกชนิดโดยมีอุปกรณ์ไวไฟจำนวนมากทั้งถังแก๊สและอุปกรณ์ทำขนม รวมทั้งถุงพลาสติกจำนวนมาก จึงทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว
+++การดำเนินคดีผู้ต้องหาแอบอ้างสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการสอบสวนขยายผลว่าอาจต้องมีการสอบปากคำบุคคลกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง พนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาสำนวนอยู่ ทั้งแนวทางการสอบปากคำเพิ่มเติมด้วย ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานก่อนจะส่งสำนวนฟ้องไปให้อัยการได้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการยึดทรัพย์สินผู้ต้องหาบ้างแล้ว เช่น ที่พักอาศัย คอนโด อาวุธปืน รถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอกสารต่างๆ เป็นต้น
+++ความเคลื่อนไหวทางการเมือง กรณีที่มีการแชร์ภาพที่มีข้อความเชิญชวนให้สวมเสื้อสีแดงในวันอาทิตย์ที่ 1 พ.ย.นี้เพื่อแสดงพลังในการให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาล ไม่ต้องการขยายความขัดแย้งและไม่ต้องการเปิดประเด็นความขัดแย้ง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)รับทราบความเคลื่อนไหวของสังคมในประเด็นดังกล่าวแล้ว ขอให้ประชาชนใช้ดุลพินิจในเรื่องนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับกระบวนการยุติธรรมเป็นหลักมากกว่าการตอบโต้ไปมา
+++การร่างรัฐธรรมนูญ นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ( กรธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้ผ่านการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราในหมวด 3 สิทธิ เสรีภาพของปวงชนชาวไทย ซึ่งพิจารณาคาบเกี่ยวกับหมวดหน้าที่พลเมืองและแนวนโยบายแห่งรัฐด้วย มีมาตราที่น่าสนใจ เช่น ร่างมาตรา 46 เสรีภาพในการเสนอข่าวสารหรือการแสดงความคิดเห็นของสื่อมวลชนตามจรรยาบรรณแห่งการประกอบอาชีพ พิจารณาร่างมาตรา 48 เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ แต่เสรีภาพดังกล่าวอาจถูกจำกัดได้เพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อย และร่างมาตรา 49 ว่าด้วยเรื่องการจัดตั้งพรรคการเมือง ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา การประชุม กรธ. วันที่ 26 ต.ค.เวลา11.30 น. จะเป็นครั้งแรกที่ กรธ.จะเปิดให้สื่อมวลชนเข้าฟังการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราในประเด็นพรรคการเมืองด้วย
+++ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา พ.ศ. 2558 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หากฝ่าฝืนจะผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประกาศฉบับนี้ ห้ามผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ หรือบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา หรือหอพักบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา หากฝ่าฝืนตามประกาศฉบับดังกล่าวจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
CR:แฟ้มภาพ