หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ได้ตรวจพบว่ามีกลุ่มบุคคลได้ร่วมกันกระทำความผิดโดยมีพฤติการณ์แอบอ้างหรือแสดงออกในลักษณะต่างกรรมต่างวาระกันเพื่อให้บุคคลทั่วไปมีความเข้าใจตนมีความใกล้ชิดกับเบื้องสูงและเรียกรับผลประโยชน์จากการดำเนินการดังกล่าว เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทหารใช้อำนาจตามคำสั่งคสช.ที่ 3/2558 เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบถามข้อมูลและควบคุมตัวได้ จากการซักถามพบว่ามีมูลกระทำความผิดจริงจึงมอบหมายให้พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าฝ่ายกฎหมายคสช. แจ้งความร้องทุกข์ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ฐานหมิ่นประมาทดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามป.อาญา มาตรา 112

ต่อมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) มีคำสั่งตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมีพล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผช.ผบ.ตร. เป็นหัวหน้า ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนเป็นแน่ชัดว่า และเชื่อได้ว่า กลุ่มบุคคลที่ร่วมกระทำความผิด ประกอบด้วย นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง ตามหมายจับศาลทหารลงวันที่ 18 ต.ค. พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา สารวัตรกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามหมายจับวันที่20ต.ค. และนายจิรวงศ์  วัฒนเทวาศิลป์  ตามหมายจับวันที่ 21 ต.ค.ในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในความครอบครอง มีซึ่งวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต และตั้งวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ปลอมเอกสารราชการ และใช้เอกสารราชการปลอม ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ ซึ่งในวันนี้ครบกำหนดควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทหาร ได้ส่งตัวบุคคลดังกล่าวมอบให้พนักงานสอบสวน จึงแจ้งข้อหาและจับกุมผู้ต้องหาดำเนินคดี โดยนายสุริยัน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาอีกสองคนให้การปฎิเสธ หลังสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว จะยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลทหารกรุงเทพในวันนี้ หากมีหลักฐานในการกระทำความผิดในคดีอื่นๆ  จะสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท. ศรีวราห์ ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนในคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งหลังจากการสอบสวนพบว่าผู้ต้องหากระทำการมานานพอสมควร โดยมีระยะเวลามากกว่า 2  เดือน และหากพบว่า มีหลักฐานพาดพิงถึงใคร ก็จะดำเนินการควบคุมตัวต่อไป ขณะนี้ กำลังพิจารณาหมายจับเพิ่มเติม

ส่วนนายตำรวจทั้ง 8 นาย ที่ถูกโยกย้ายก่อนหน้านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนและหาหลักฐาน ซึ่งจะต้องหารือกับผู้บังคับบัญชาของนายตำรวจทั้ง 8 นายว่า จะตั้งข้อหาอะไร และหลังจากนี้จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3  คนไปฝากขังที่ เรือนจำชั่วคราว มณฑลทหารบกที่ 11  กรุงเทพฯ

นอกจากนี้ หมอหยอง เป็นอดีตหมอดูชื่อดัง และเป็นคณะกรรมการจัดงานBike for Mom ส่วนพ.ต.ต. ปรากรม เคยถูกให้ออกจากราชการฐานกระทำความผิดร้ายแรง ปลอมแปลงลายพระหัตถ์ กำหนดการของสมเด็จพระสังฆราช เมื่อปี 2541 แต่อัยการมีความเห็นไม่สั่งฟ้อง จึงได้ขอกลับเข้ารับราชการอีกครั้ง และยังเป็นหนึ่งในชุดจับกุมอดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางและพวกในความผิดคดีเดียวกัน

ล่าสุด เจ้าหน้าที่นำสามผู้ต้องหาออกมาจากศาลทหารแล้วเพื่อนำไปฝากขังที่ เรือนจำชั่วคราว มณฑลทหารบกที่ 11  กรุงเทพฯ โดยทั้งสามคนมีสีหน้าเรียบเฉย

ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข