ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์สั่งจำคุกสนธิ ลิ้มทองกุล 1 ปี ปรับ 20,000 บาท โดยโทษจำให้รอลงอาญา 2 ปีคดีหมิ่นทักษิณ หมกมุ่นเรื่องไสยศาสตร์ เช่น การทำพิธีบวงสรวงพระพรหมที่ทำเนียบรัฐบาล รวมถึงการทำบุญที่วัดพระแก้ว ศาลเห็นว่า โจทก์เป็นบุคคลสาธารณะ ย่อมวิพากษ์วิจารณ์ได้ อีกทั้งคำปราศรัยของจำเลยเป็นการติชมโดยสุจริต ที่ศาลอุทธรณ์ พิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย พิพากษากลับให้ยกฟ้องนายสนธิ ส่วนคำพิพากษาอื่นให้เป็นไปตามศาลอุทธรณ์
คดีนี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการและแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายขุนทอง ลอเสรีวานิช บรรณาธิการ ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา สืบเนื่องจากเดือนมีนาคม 2549 นายสนธิ ได้กล่าวปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ พาดพิงถึงนายทักษิณ ในทำนองว่า หมกมุ่นอยู่กับเรื่องของไสยศาสตร์
โดยนายสนธิ และนายขุนทอง มาฟังคำพิพากษา ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้โจทก์ไม่ได้นำสืบว่า จำเลยหมิ่นประมาทเรื่องหมกมุ่นทางไสยศาสตร์ อย่างไร ขณะที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า โจทก์มีพฤติกรรมเชื่อถือเรื่องไสยศาสตร์ ทั้ง สำหรับคดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2550 ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาจำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้เป็นลงโทษจำคุกนายสนธิ 1 ปี ปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้เป็นเวลา 2 ปี และให้นายสนธิ ลงโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เป็นเวลา 5 วัน และให้ยกฟ้องนายขุนทอง.
แฟ้มภาพ