จากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ได้มีการพบหรือให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเลย แต่ในช่วงเช้าวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เหตุผลที่ไม่พูด ไม่ได้เป็นยุทธศาสตร์อะไร แต่ไม่อยากเพิ่มความขัดแย้ง เพราะความขัดแย้งมีมากอยู่แล้วไม่งั้นก็เดินหน้าไม่ได้ ซึ่งถึงอย่างไรก็ตาม ส่วนตัวก็คิดถึงประชาชนมากว่าที่คนอื่น ๆ คิดถึงตนเองอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องการเดินหน้าสร้างความปรองดอง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า รัฐบาลได้ดำเนินการมาตลอด และพยายามทำให้ประชาชนเข้าใจว่าการที่จะทำให้ประเทศชาติเจริญได้ จะต้องไม่มีความขัดแย้ง โดยเฉพาะประเด็นเงื่อนไขต่างๆ นั้น จะต้องไม่นำมาใช้ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าการปรองดองบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว แต่การที่ยังมีคนที่ไม่ถูกกัน เพราะแต่ละคนมีการตั้งเงื่อนไข ซึ่งเรื่องนี้ทุกคนในชาติต้องยอมรับ และอย่าเดินไปเส้นทางเก่าที่ทำกันมา เพราะมันเลวร้ายเกินไป จึงคิดว่าจะต้องทำไปตามกฎเกณฑ์และกฎหมายที่เป็นทางที่ดีที่สุด
ส่วนที่มีบุคคลพยายามใช้การรวมกลุ่มเพื่อเรียกร้องรัฐบาลนั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า หากเพิ่มความรุนแรงก็จะกลายเป็นประเด็นขึ้นมาใหม่ จึงต้องทำให้คนค่อยๆเรียนรู้ ซึ่งเชื่อว่า 2-3 ปีที่ผ่านมาสังคมก็ได้รับบทเรียนไปมากแล้วว่า การใช้กฎหมู่หรือรวมตัวกัน และยึดถือสิ่งที่ตัวเองคิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง จะสร้างความขัดแย้งกัน และหากสร้างมาตรฐานอย่างนี้ต่อไป เมื่อมีเป็นรัฐบาลใหม่ก็ต้องโดนอีก
สำหรับการยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช.ในกรณีโยกย้ายข้าราชการนั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า บางอย่างก็อยากทำ แต่ทำไม่ได้ในทางรัฐศาสตร์จึงต้องอะลุ่มอล่วย ส่วนการออกคำสั่งมาแก้ไขคำสั่งเดิมนั้น ไม่ใช่ความผิดของฝ่ายกฎหมาย คสช. แต่เป็นเรื่องของความคิดเห็นและความเหมาะสมมากกว่า
ส่วนกรณีที่ชาวสวนยางจะเดินทางมาเรียกร้องราคายางพาราตกต่ำนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า คงไม่ต้องสกัดอะไร แต่ต้องชี้แจงว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง แต่ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็จะดำเนินการเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ถึงอย่างไรปริมาณยางในขณะนี้มีจำนวนมาก ราคาจึงลดลงเป็นธรรมดา แต่ที่มีปัญหาคือ การบุกรุกป่าเพื่อปลูกยางซึ่งเรื่องนี้จะต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาต่อไป
ส่วนกรณีที่กรุงเทพมหานครเตรียมไล่รื้อถอนร้านค้าและสิ่งปลูกสร้างย่านคลองโอ่งอ่าง สะพานเหล็ก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ถึงเวลาที่บ้านเมืองของจะต้องทำอะไรที่ถูกต้องไปเป็นเรื่องๆ ซึ่งสะพานเหล็กเอง ก็ถือเป็นพื้นที่ริมคลองสาธารณะที่ต้องใช้ระบายน้ำ การที่จะไปยึดครองพื้นที่นั้น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและไม่ได้มีเพียงสะพานเหล็กที่เดียว ซึ่งหากกรุงเทพมหานคร เพิกเฉยและปล่อยให้เทศกิจเข้าไปหาผลประโยชน์ก็ต้องรับโทษ อย่างไรก็ตามในเรื่องการจัดระเบียบก็ต้องดำเนินการ เพราะที่ผ่านมาก็ทราบว่ามีการผ่อนปรนมาตลอด
อย่างไรก็ตามที่ทำเนียบรัฐบาลช่วงบ่ายวันนี้นายชัด อุบลจินดา อายุ 44 ชาวจังหวัดกระบี่ ที่ช่วยเหลือสองสามีภรรยานักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ ที่ประสบเหตุจมโคลนขณะลงไปบันทึกภาพบริเวณริมเขื่อนปากแม่น้ำกระบี่ จะเข้าพบกับนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อรับรางวัลเชิดชูเกียรติ
...ผสข.วิรวินท์ ศรีโหมด