เมืองไทยฯ(1):ครม.หารือแหล่งเงินทุนโครงการพื้นฐาน/สปท.ประชุมกรอบการทำงาน/กรธ.พิจารณาเนื้อหาสิทธิและเสรีภาพ

20 ตุลาคม 2558, 07:25น.


กรณีนายชัด อุบลจินดา อายุ 44 ปี ฮีโร่ชาวกระบี่ ได้รับการยกย่องจากการช่วยเหลือสองสามีภรรยาชาวนอร์เวย์ขณะจมโคลน บริเวณริมเขื่อนปากแม่น้ำกระบี่ ถนนอุตรกิจ อ.เมือง จ.กระบี่ โดยนอนให้ทั้งสองคนขึ้นเหยียบบนหลังขึ้นมาจากโคลนทีละคน ซึ่งนายชัด มีความกังวลว่าจะมีนักท่องเที่ยวประสบเหตุในพื้นที่เดิมอีก เพราะเป็นจุดที่เมื่อมองผิวเผินจะไม่รู้ว่าเป็นโคลน จึงอยากให้เทศบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งนำป้ายเตือนมาติดตั้งไว้ ซึ่งรวมไปถึงจุดอันตรายอื่นๆ ด้วย โดยเมื่อไม่นานมานี้เคยช่วยชีวิต นักท่องเที่ยวที่จมน้ำ บริเวณช่องเขาขนาบน้ำ เพราะช่วงน้ำขึ้นกระแสน้ำจะเชี่ยว แต่นักท่องเที่ยวไม่รู้จึงควรมีป้ายเตือน



ด้านนายเชษฐา เตกฉัตร์ รองอัยการจังหวัดกระบี่ มาพบนายชัดและได้เสนอสำนักงานอัยการสูงสุดมอบเสื้อสามารถให้กับนายชัด ในฐานะทำคุณงามความดีให้กับแผ่นดิน ซึ่งสำนักงานกิจการและโครงการในพระดำริ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้า พัชรกิติยาภา สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ทราบข่าวการทำความดีของนายชัดผ่านสื่อต่างๆ จึงเห็นควรให้มอบเกียรติบัตร พร้อมเสื้อคนดีแก่นายชัด เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำความดี และยกย่องเชิดชูให้เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม โดยมีกำหนดมอบให้ในวันที่ 23 ตุลาคมนี้



ด้านผู้แทนกระทรวงวัฒนธรรม จะพานายชัดมาพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันนี้ โดยยืนยันจะยังใช้ชีวิตเหมือนเดิมและช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป พร้อมขอให้ทุกคนทำความดี เพราะเป็นอีกความภาคภูมิใจ อีกทั้งรู้สึกดีใจที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดกำลังเร่งช่วยเหลือเรื่องเอกสารสิทธิที่อยู่อาศัยที่มีปัญหาอยู่



ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ มีวาระน่าสนใจ อาทิ กระทรวงคมนาคมจะเสนอแนวทางหา แหล่งเงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐานประเทศ ระยะเร่งด่วนปี 2558-2560 รวม 19 โครงการ เช่น การแก้ปัญหาหนี้เกษตรกร



ส่วนการทำงานของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)  เมื่อวานนี้ ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) พร้อมด้วยนายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธาน สปท.คนที่ 1 และ น.ส.วลัยรัตน์ ศรีอรุณ รองประธาน สปท.คนที่ 2 เข้าสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ด้านหน้าอาคารรัฐสภา และถวายพวงมาลัยองค์พระสยามเทวาธิราช เพื่อเป็นสิริมงคลในการปฏิบัติหน้าที่ จากนั้นมีการประชุมเกี่ยวกับแนวทางการทำงาน ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้มีการประชุมสัปดาห์ละ 2 วัน คือ วันจันทร์และอังคาร ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป



ด้าน นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า การพิจารณาเนื้อหาบทบัญญัติของร่างรัฐธรรมนูญ แล้วเสร็จไปจำนวน 2 หมวด คือบททั่วไปและหมวดพระมหากษัตริย์ จากนี้ไปจะเริ่มพิจารณาเนื้อหาในส่วนของสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย โดยต้องการให้เนื้อหากระชับ กะทัดรัดและเข้าใจง่าย ส่วนเรื่องการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญนั้นพบว่าหลายประเด็นเป็นแนวคิดและความต้องการของแต่ละองค์กร จึงต้องพิจารณาด้วยความระมัดระวังเพราะหากทำตามที่แต่ละองค์กรเสนอมาจะทำให้เกิดความซับซ้อน ท้ายที่สุดอนาคตองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญจะทะเลาะกันเองได้



โดยในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ จะมีการประชุมแม่น้ำ 5 สาย ซึ่งจะมี กรธ.เข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทั้ง สนช. ครม. สปท.และ คสช.



ตามที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง ฯ ตามที่พบว่ามีกลุ่มบุคคลแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงไปกระทำการมิบังควร ซึ่ง ผบ.ตร. กล่าวว่า หากตรวจสอบพบมีบุคคลใดเกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินการทั้งหมด และไม่รู้สึกกังวลใจกับคดีนี้ เพราะมีกฎหมายที่ชัดเจน



ด้าน พล.ต.ท.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า หลังจากที่กองทัพร้องทุกข์ จึงขออนุมัติศาลทหารออกหมายจับ และศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้แล้วแต่ไม่ขอเปิดเผยรายชื่อบุคคล จำนวน และรายละเอียดพฤติการณ์ ทุกอย่างอยู่ในสำนวนไว้ทราบตอนฝากขัง ซึ่งคาดว่าจะฝากขังผู้ต้องหาในวันที่ 21 ตุลาคมนี้



ส่วนที่ศาลทหารเมื่อวานนี้  เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจชุดพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ คุมตัวนายอาเดม คาราดัก หรือนายบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด และนายมีไรลี ยูซุฟู 2 ผู้ต้องหาก่อเหตุระเบิดศาลท้าวมหาพรหม บริเวณสี่แยกราชประสงค์และท่าน้ำสาทร เมื่อวันที่ 17-18 สิงหาคมที่ผ่านมา มาฝากขังผัดที่ 5 ซึ่งนับรวมจากการฝากขังที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันทำระเบิดจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งพนักงานสอบสวน ระบุว่า ยังสอบพยานอีกหลายปากไม่แล้วเสร็จ พร้อมทั้งรอผลจากพยานวัตถุทางนิติวิทยาศาสตร์ ศาลจึงอนุญาตให้ฝากขังต่อผัดที่ 5 เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม-31 ตุลาคม จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำกลับไปควบคุมตัวที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี



ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตำรวจทำงานเต็มที่เพื่อให้ได้ตัวผู้ต้องหาเพิ่มเติม และทำอย่างดีที่สุดเสมอ แต่ขณะนี้ยังไม่มีเบาะแสอย่างอื่นที่เข้ามาสนับสนุนงานสืบสวนหาขบวนการ สำหรับการตามตัวผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนีอยู่ทั้งในและต่างประเทศตำรวจยังคงพยายามติดตามตัวอย่างเต็มที่ ขณะนี้ยังคงเท่าเดิมคือ 17 ราย จับกุมได้แล้ว 2 ราย อีก 15 ราย ยังคงหลบหนีอยู่



ส่วนการประชุมคณะกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งมี นายนุรักษ์ มาประณีต ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาฯ นายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำหน้าที่พิจารณาเลือกผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 5 คน จากผู้เข้ารับการสรรหาทั้งสิ้น 59 คน และมีมติเลือก นายวิทยา อาคมพิทักษ์ อดีตกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และอดีตรองเลขาธิการ ป.ป.ช. นางสุวณา สุวรรณจูฑะ ปลัดกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ และ พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ อดีตผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบภายในกองทัพบก ให้เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งจะเสนอต่อประธาน สนช.เพื่อให้ที่ประชุม สนช.ให้ความเห็นชอบต่อไป



*-*

ข่าวทั้งหมด

X