วันนี้เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนตำรวจนครบาลได้เดินทางมาที่ศาลทหารกรุงเทพ เพื่อขอยื่นคำร้องขอฝากขัง นายอาเดม คาราดัก หรือบินลาห์เติร์ก มูฮัมหมัด และนายไมไรลี ยูซุฟู ผู้ต้องหาเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร ตามหมายจับศาลทหารฯ ใน 7 ข้อหาฉกรรจ์ คือ ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ข้อหาร่วมกันทำระเบิดจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย , ข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ , ข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบ ครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ข้อหาร่วมกันพกพาอาวุธระเบิดไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ข้อหาร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นผัด 5 หลังครบกำหนดฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.58-19 ต.ค.58
โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ทหารร่วมกันควบคุมตัวทั้ง 2 คน มาจากกองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 11 ซึ่งใช้เป็นเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี มีกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธครบมือดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ทั้งนี้คณะตุลาการศาลทหารกรุงเทพ ได้ออกนั่งบังลังก์เพื่อพิจารณาคำร้องของพนักงานสอบสวนฯ ซึ่งให้เหตุผลว่า ยังสอบสวนพยานไม่แล้วเสร็จอีกหลายปากและต้องรอผลการพิสูจน์หลักฐานจากกองพิสูจน์หลักฐานและวัตถุพยานตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือประวัติอาชญากร
คณะตุลาการศาลทหารฯพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังผัด 5 ต่อ ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.- 31 ต.ค 58 ซึ่งเป็นการนับรวมต่อจากฝากขังที่ศาลจังหวัดมีนบุรี จากนั้นพนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย กลับไปควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำชั่วคราวภายในภายในมณฑลทหารบก ที่ 11 แขวงถนนนครไชยศรี
ทั้งนี้ระหว่างการพิจารณาคำร้องทางคณะตุลาการฯ ได้อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษา แต่ห้ามสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง และมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีทั้ง สารวัตรทหารและตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ
....ผสข.สมจิตร์ พูลสุข