*รวบคนร้ายข้ามชาติหนีคดีเข้าไทย ตม.เสนอแก้กม.เพิ่มโทษคนอยู่นาน- อัพเดตหมายจับ*

18 ตุลาคม 2558, 16:05น.

การแถลงจับคนร้ายชาวรัสเซียและผู้ต้องหาหลบหนีเข้าเมือง ที่สำนักงานตำรวจตรวจคนเจ้าเมือง พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนธร ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่าได้ประสานงานกับฝ่ายตำรวจประจำสถานทูตประเทศต่างๆ และตำรวจสากลสามารถปฏิบัติการจับกุมคนร้ายได้สามราย
โดยสองรายจับได้ที่จ.ชลบุรี คือ นายเอ๊ดดวล มัลคอฟ สัญชาติรัสเซีย อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาในข้อหาลักลอบนำเข้าสารเคมีมีพิษร้ายแรงประเภท สเตอร์รอยด์ เข้าประเทศรัสเซีย ซึ่งถูกพิพากษาให้จำคุก 3 ปี และหลบหนีเข้ามายังประเทศไทยในระหว่างการประกันตัว และ นายยูคิน เอฟเยนี่ สัญชาติรัสเซีย อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาในข้อหาฉ้อโกงบริษัทที่ตัวเองทำงานเป็นพนักงานด้านการเงิน โดยการปลอมแปลงเอกสารและถ่ายโอนเงินเข้าบัญชีตัวเองมูลค่า 2.5 ล้านบาท ซึ่งหลบหนีเข้ามายังประเทศไทยโดยการเข้ามาเรียนภาษาและเปิดร้านขายแฮมเบอร์เกอร์ ฮอตดอก ในจ.ชลบุรี จึงเข้าจับกุมตัว ส่วนรายที่สาม นายเทรเวอร์ ยาร์ดลี่ย์ สัญชาติออสเตรเลีย อายุ 71 ปี เป็นบุคคลที่ทางการให้เฝ้าระวังเนื่องจากเคยต้องโทษจำคุกในข้อหาอนาจารเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี และล่วงละเมิดทางเพศเด็กอายุต่ำอายุ 16 ปี ซึ่งนายเทรเวอร์ ได้ลักลอบเข้ามาประเทศไทยโดยช่องทางธรรมชาติ โดยอยู่ที่เมืองไทยนานจนมีภรรยาเป็นชาวไทย นอกจากนี้ยังมีการจับกุมตัวชาวต่างชาติแอฟริกันกระทำความผิดต่อ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง 12 รายโดยแบ่งเป็นไม่ได้รับอนุญาต 5 รายและอยู่เกิน 7 ราย จึงส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้สาเหตุที่การหลบหนีเข้ามาหลบเมืองไทยที่ทำได้ง่าย เพราะคนร้ายเข้ามาในรูปแบบนักท่องเที่ยว และประเทศไทยมีละเว้นการวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวในหลายๆ ประเทศทั่วโลกซึ่ง ขณะเดียวกันคนร้ายเข้ามาในประเทศขณะที่ทางการไทยยังไม่มีข้อมูลว่าเป็นคนร้ายเนื่องจากหมายจับของทางตำรวจสากลและทางการประเทศนั้น ๆ ล่าช้าใช้เวลาเป็นเดือน จึงเสนอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติผ่านกองการต่างประเทศ ลงนาม MOU กับตำรวจสากลเพื่อจะได้รับทราบข้อมูลทันทีที่มีการออกหมายจับของตำรวจสากล ซึ่งกรณีนี้ยังพ่วงกับโครงการตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้าได้ด้วย
ขณะเดียวกันจะเสนอให้มีการปรับแก้กฎหมายและออกเป็นพระราชกำหนดเพิ่มโทษว่าหากอยู่เกินเวลาในแต่ละครั้งจะไม่ให้เข้าประเทศ อาจไม่ให้เข้าประเทศหรือ 1 ปี หรือเกินกว่านั้น ซึ่งเชื่อ ว่าจะสามารถทำให้ตัวเลขคนอยู่เกินกำหนดสามารถลดลงเหลือร้อยละ 20 ตามเป้าหมายที่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำหนด ซึ่งกลุ่มที่มีการคัดกรองเป็นพิเศษได้แก่ ประเทศแถบ แอฟริกา เอเชียใต้ และตะวันออกกลาง ทั้งนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบว่าคนร้ายหลบหนีเข้าเมืองทางไหน และเจ้าหน้ามีส่วนร่วมหรือไม่
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี
ข่าวทั้งหมด

X