*ผู้เชี่ยวชาญ เตือนอย่านอนหลับในรถที่ติดเครื่อง เสี่ยงเสียชีวิต*

จส.100 ได้รับแจ้งเรื่องมีผู้เสียชีวิตภายในรถยนต์ นคร 55 มูลนิธิร่วมกตัญญู รายงานว่า จากข้อมูลเบื้องต้นจากบันทึกประจำวันของเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.โชคชัย ลงเวลารับแจ้ง เมื่อคืนนี้( 16 ต.ค.) เวลา 22.50น. ว่า ครอบครัวนี้(พ่อ-แม่-ลูก)ไปทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในพื้นที่สน.โชคชัย และประมาณ 21.30น. แม่และลูก ขอกุญแจรถจากพ่อมา เพื่อขอไปพักผ่อนในรถ หลังจากนั้น พ่อเดินมาที่รถ พบว่า แม่และลูกหมดสติ จึงรีบพาส่ง รพ.เปาโล โชคชัย และทั้งคู่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ร้อยเวร มีคำสั่งให้ รับศพแม่-ลูก ส่งชันสูตร ที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ผู้เสียชีวิตชื่อ นางสุทธิดา สกุลเอี้ยง อายุ 49ปี และ ด.ช.กัมปนาท ดุสดี อายุ 5 ขวบ ส่วนพ่อชื่อนายบุญนำ ดุสดี อายุ60ปี

พ.ต.ท. พรทวี สมวงศ์ รองผกก.ป สน.โชคชัย เพิ่มเติมว่า กรณีนี้เหมือนกรณีทั่วไป คือนอนในรถแล้วติดเครื่องไว้ เลยเสียชีวิตทั้งสองคน ส่วนสามีทราบว่าสังสรรค์กับเพื่อนในร้านอาหาร พอออกจากร้านอาหารมาดูที่่รถก็พบภรรยากับลูกเสียชีวิต สาเหตุน่าจะเกิดจากท่อไอเสียรถ จะต้องส่งรถไปตรวจสอบว่าท่อไอเสียมีควันพิษหรือไม่

พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า คนนอนในรถเสียชีวิต ทางวิทยาศาตร์ จะแยกสภาพทางร่างกายก่อน หากไม่มี จะดูจากสิ่งแวดล้อม เช่น ก๊าซจากท่อไอเสีย หากเราติดเครื่องนอน ก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ที่ออกมาในช่วงที่เครื่องยนต์ทำงาน  ไม่มีสี ไม่กลิ่น จะไม่รู้สึกว่าเหม็น เมื่อสูดดมเข้าไป จะเกิดอาการง่วงซึม เลือดไปเลี้ยงสมองได้น้อยลง และเมื่อหลับลึกมากขึ้น ออกซิเจนลดลงทำให้เสียชีวิตได้

ขณะที่ นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ  บรรณาธิการนิตยสารออโต้คาร์ ให้ความรู้เรื่องติดเครื่องยนต์ เปิดแอร์ ว่า ฝากถึงเจ้าของรถหากอยู่ในรถและได้กลิ่นต่างๆ เช่น กลิ่นจากท่อระบายน้ำเมื่อขับรถผ่าน หรือกลิ่นควัน รวมทั้งกลิ่นน้ำมัน เข้ามาในตัวรถ ให้รีบนำรถไปตรวจสภาพ หรือหาก่อนว่ารถรั่วตรงไหน หากแก้อาการไม่ได้ อย่าติดเครื่องเปิดแอร์ รถอยู่นิ่งๆเป็นอันขาด เพราะก๊าซจะเข้ามา และแนะนำว่าหากจำเป็นจริงๆ ที่ต้องเปิดแอร์อยู่ในรถนานๆโดยที่รถไม่เคลื่อน สามารถทำได้ แต่ขอให้อยู่ในที่โล่ง เปิดฝากระโปรงรถ เพื่อให้ก๊าซที่ระเหยออกจากห้องเครื่องที่ม้วนอยู่ข้างใต้ ให้วนออกไปด้านนอกไม่ม้วนวนเข้าตัวรถ คนในรถก็จะไม่เป็นอันตราย

CR:รักเธอประเทศไทย