*พล.อ.ชวลิต เปิดบ้าน แนะร่างรธน.สร้างปชต. เปรยเลิกเล่นการเมืองเพราะแก่แล้ว*

16 ตุลาคม 2558, 09:25น.


พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีเปิดบ้านพูดคุยกับสื่อมวลชนในช่วงเช้าววันนี้ ถึงการแก้ไขปัญหาของประเทศ โดยเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ ที่มองว่า เป็นสิ่งสำคัญที่คนไทยจะต้องร่วมกันวิเคราะห์ถึงปัญหา และร่วมกันเสนอความคิดเห็น ไม่ใช่มั่วแต่มาขัดแย้ง ขัดขวาง และวิพากษ์วิจารณ์ขณะนี้ประเทศกำลังถอยกลัง สู้พม่า เวียดนามไม่ได้ และสภาพเศรษฐกิจตอนนี้ก็เข้าสู่สภาวะตกต่ำ คนรวยกระจุกตัวมีจำนวนน้อย ส่วนคนจนมีจำนวนมาก ซึ่งความแตกต่างทางสังคมที่มีมากนี้ทำให้ประเทศเกิดปัญหา ดังนั้นส่วนตัวจึงอยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาความยากจน ผ่านการใช้นโยบายของรัฐบาล ไม่ใช่สนในแต่การร่างรัฐธรรมนูญ เพราะส่วนตัวเห็นว่า รัฐธรรมนูญควรบัญญัติไว้เพียงหลักสำคัญๆ และมุ่งเน้นการสร้างระบอบประชาธิปไตย เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน ไม่จำเป็นต้องใส่รายละเอียดมากนัก  เห็นได้จากการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ประชาชนเห็นว่าการสร้างประชาธิปไตยต้องสร้างด้วยนโยบายไม่ใช่รัฐธรรมนูญ ส่วนการการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ในครั้งนี้ก็ให้อย่าเดินซ้ำรอยเดิม



ส่วนตัวเป็นกำลังใจให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กรธ.ในการทำหน้าที่สร้างประชาธิไตยให้สำเร็จ เพื่อให้ไม่มีรัฐประหารต่อไป โดยเชื่อมั่นว่านายมีชัย ที่เป็นผู้รู้ จะทำให้รัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติของประชาชนได้อย่างแน่นอน และไม่นำไปสู้ความขัดแย้งเหมือนที่ผ่านมา



ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีให้มีการบรรจุอำนาจพิเศษ ของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ปฎิรูปและปรองดองแห่งชาติ คปป. นั้น พล.อ.ชวลิต ปฎิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น เพราะไม่ทราบว่า คปป. คืออะไร แต่เห็นด้วยที่ควรจะมีอำนาจพิเศษ ให้ดูแลประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และเมื่อประเทศกลับเข้าสู่สภาวะปกติ กดเกณฑ์เหล่านี้ก็ควรถูกยกเลิกไป 



ด้านการเรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว จาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะนำไปสู่ความขัดแย้งหรือไม่ พล.อ.ชวลิต ระบุว่า ส่วนตัวไม่ได้ติดตาม แต่เชื่อว่าผู้บริหารรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร โดยสิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหาจะต้องไม่ใช้ความรุนแรง แต่ต้องเอาชนะใจให้ได้  พล.อ.ชวลิต ได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรี พร้อมฝากว่าอย่าดุมากนัก ใจเย็นๆ เดี๋ยวความดันขึ้น พร้อมกล่าวว่า ส่วนตัวคงไม่กลับมาเล่นการเมืองอีกแล้ว เพราะอายุมากแล้ว



พล.อ.ชวลิต ได้กล่าวถึงกรณีที่ไฟไหม่บ้านพัก ในซอบปิ่นประภาคมเมื่อคืนวันพุธ ที่ผ่านมาว่า คาดว่าเหตุมาจากหนูกัดสายไฟภายในห้องพระ ที่อยู่บนชั้น 3ของตัวบ้าน จนทำให้ไฟฟ้ารัดวงจร ส่วนความเสีย มีพระพุทธรูปเสียหากกว่า 100องค์ ซึ่งก็รู้สึกเสียดาย เพราะมีพระสมเด็จวัดระฆัง ที่เคยแขวนออกศึก 5สนามรบด้วย โดยเบื้องต้นประเมินมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 30ล้านบาท อย่างตลอดการให้สัมภาษณ์ของพล.อ.ชวลิต ก็มีทหารมาเก็บภาพ และเฝ้าสังเกตการณ์ด้วย



ข่าวทั้งหมด

X