ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.
+++ลุยปฎิรูปเศรษฐกิจ หมดเวลากระตุ้น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลทำ ไม่ได้มีเจตนาเพื่อให้จีดีพีไทย โตสวนกระแสโลก แค่ยับยั้งการชะลอตัว ซึ่งถึงเวลาที่ต้องรอดูผลของสิ่งที่ทำไป และประเมินว่าจะใช้มาตรการใดต่อไป จากนี้ไปจะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจน้อยลง การกระตุ้น จะมีต่อเมื่อจำเป็นจริงๆ โดยรัฐบาลต้องการใช้เวลาที่เหลืออีก 1 ปีเศษที่เหลือในการแก้ไขปัญหาของประเทศให้น้ำหนักกับการปฏิรูป เพราะหากไม่ทำ อนาคตจะลำบาก
++++การปฏิรูป มี 4 กลุ่มงาน คือ 1. การปรับโครงสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจให้มีความความสมดุลมากขึ้น จากเดิมที่การเติบโตของไทย เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา เน้นการส่งออก จนละเลยการเข้าไปดูแลภาคอื่นๆ โดยเฉพาะภาค ที่เป็นรากฐานของประเทศ จากนี้ไปจึงจะย้าย (Shift) นโยบายการส่งเสริมจากภาคการส่งออก เป็นส่งเสริมความเข้มแข็งจากภายใน สร้างผู้ประกอบการใหม่ หรือ เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ เพื่อเป็นรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคต
+++++ส่วนทางที่ 2 คือการขับเคลื่อนในแนวราบ ใช้เครือข่ายประชาชน นอกจากนี้ต้องเปลี่ยน จากการผลิตจากเดิมที่เน้นความถูก ต้นทุนต่ำ เน้นปริมาณไปสู่การพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต สู่การเพิ่มมูลค่าให้สินค้า สร้างความสามารถในการแข่งขัน โดยพยายามส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี เพื่อให้สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้
++++ ส่วนที่ 3 คือ การปฏิรูปด้านไอที ทำอย่างไรให้ประเทศไทยเป็นดิจิทัลไทยแลนด์ ที่ผ่านมา ระบบไอทีมีแต่ประมูล แต่ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น และ ส่วนที่ 4 คือ การปฏิรูปการเงินการคลัง เพื่อลดภาระการเงินในการลงทุนของรัฐบาล โดยส่งเสริมการร่วมลงทุนของภาคเอกชน หรือ พีพีพี อยู่ระหว่างให้ทางสำนักงานนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ไปดูว่าจะมีการลดขั้นตอนให้เร็วขึ้นอย่างไร ส่งเสริมกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (อินฟาร์สตรัคเจอร์ฟันด์)
+++ สิ่งสำคัญ คืองบประมาณ ซึ่งมีการลงทุน ซ้ำซ้อนกันของหน่วยงานต่างๆ แต่จากนี้จะปรับใหม่ ซึ่งได้หารือกับผู้อำนวยการสำนักงบประมาณแล้ว ในส่วนงบประมาณที่เป็นภาระกิจรัฐ ต้องสร้างระบบงบประมาณแบบบูรณาการ ซึ่งจะสามารถประหยัดงบประมาณได้มหาศาล นอกจากนี้ บอรด์งบประมาณจะมีคนนอกไปนั่งด้วยเพื่อให้เกิดความโปร่งใส และมีความคิดนอกกรอบ
+++นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กลล่าวว่า กระทรวงการคลัง มีคณะทำงานหนึ่งชุด เพื่อหาว่าอุตสาหกรรมใด ที่ควรเป็นอนาคตของประเทศ ซึ่งสรุปได้หลังจากนี้ 1 เดือน เช่น อุตสาหกรรมไอโบเมดิคอล เช่นเราเกี่ยวข้องกับการต่อยอดอุตสาหกรรมรถยนต์ การพัฒนาอุตสาหกรรมการบิน คาดว่า ปีหน้าจะใช้งบลงทุนเมกะโปรเจคราว 1.3 แสนล้านบาท หากทำหมดนี้ ประเทศไทยจะมีสิทธิภภาพดีขึ้น สิ่งที่จะเน้นคือ การใช้เทคโนโลยี ดีขึ้น เพื่อให้ประสิทธิภาพของภาคเอกชนดีขึ้น
++++ส่วนของ ภาษีที่ออกมาในครม. ที่ผ่านมา เช่น ภาษีนิติบุคคลอยู่เป็นการถาวร 20% เพื่อสร้างความมั่นใจให้เอกชน ถามว่า ทำไมต้องลด เพื่อสร้างขีดความสามารถทาง การแข่งขันกับต่างประเทศ เพราะหากเรามีการเก็บภาษีสูงเหมือนอดีตที่ 30% ก็อาจไม่จูงใจอุตสาหกรรมต่างๆเข้ามาลงทุน ส่วนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่ยังเหลื่อมกันอยู่ ก็มีความจำเป็น แต่หากปรับลดแล้ว รายได้รัฐจะหายไปเยอะ ขณะที่ภาษีอื่นๆ กระทรวงการคลัง จะพยายามทำให้สะดวกในการจ่าย และทำให้มีการรวมกลุ่มประเภทภาษี เพื่อให้มีประเภทภาษีที่น้อยลง ปรับระเบียบ ต่างๆ ทำให้เป็นกฎเกณฑ์ชัดเจน ลดการใช้ดุลยพินิจ เพื่อป้องกันการคอร์รัปชั่น ส่วนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทางทฤษฏีเป็นเรื่องที่ดี และกระทบกับคนจำนวนมาก ขณะนี้ เราเอามาทบทวน เพื่อลดผลกระทบของบุคคลต่างๆ ซึ่งหากได้แล้ว จะกลับมาเสนออีกครั้ง
+++ ส่วนการสนับสนุนกองทุนรวมโครงสร้าง พื้นฐานหรืออินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์ คลังมี แนวคิดจะสนับสนุนการตั้งกองทุนขนาดใหญ่ขึ้นมา ให้ลงทุนในหลายๆ กิจการของประเทศ ทั้ง รถไฟฟ้า รถไฟ เป็นต้น จากเดิมที่กองทุนที่ตั้งขึ้น มา จะลงทุนกิจการเดียว การลงทุนในหลายกิจการช่วยในเรื่องการบริหารความเสี่ยงได้ อย่างไรก็ตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใช้เวลานาน 4-5 ปี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมกล่าวถึงภารกิจหลักที่จะผลักดัน คือ ระบบรางมี 2 ระบบ ได้แก่ 1.ระบบรางปัจจุบัน 2.เพิ่มทางรถไฟทางคู่ 6 โครงการ ซึ่งเสนอรัฐบาลไปแล้ว 2 โครงการ และอีก 4 โครงการ เสนอรัฐบาลปีหน้า นอกจากนี้ ผลักดันโครงการรถไฟระหว่างเมือง ซึ่งมีโครงการที่สำคัญ คือ โครงการความร่วมมือระห่างไทย-จีน โครงการความร่วมมือระหว่างไทย-ญี่ปุ่น และโครงการของไทย "ระบรางในกรุงเทพฯ รถไฟฟ้าสายสีม่วง จะเปิดบริการเดือน ส.ค. ปีหน้า ซึ่งทดสอบระบบเดือน พ.ค. และในเดือนมิ.ย.ปี2559 และเปิดจริงในเดือน ส.ค.2559 เร็วกว่ากำหนด 5 เดือน โดยทั้งหมด 10 สาย ศึกษาเสร็จแล้ว ส่วนรถไฟฟ้าสายสีม่วงด้านใต้ จากบางซื้อถึงราชบูรณะ กำลังรออนุมัติ ถ้าอนุมัติสิ้นปีนี้ กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างใช้เวลา 6-8 เดือน ส่วนรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน แดงเข้ม เชื่อมสุวรรณภูมิ ดอนเมือง จะขับเคลื่อนให้ได้ครึ่งปีหน้า
++++ด้าน นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการการะทรวงอุตสาหกรม กล่าวว่า ส่วนการลงทุนที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้รับมอบหมาย เรื่องส่งเสริมคลัสเตอร์อุตสาหกรรม จะพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในรูปแบบคลัสเตอร์ สร้างความเข้มแข็งภาคอุตสาหกรรมจะกระจายอยู่ใน 7 จังหวัด ที่มีอุตสาหกรรมหนาแน่น ได้แก่ จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา ปราจีน ชลบุรี และ ระยอง โดยจะ ส่งเสริมให้เกิดการต่อยอดไปสู่การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ การผลิตสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง รวมทั้งเชื่อมโยงสถาบันการศึกษา สถาบันวิจัย ซึ่งจะเห็นการลงทุนวิจัยและพัฒนาต่างๆ ตามมาอีกมาก ส่วนคลัสเตอร์ไอที และดิจิทัล กระทรวงไอซีทีจะส่งเสริมให้เกิดการลงทุนใน จ.เชียงใหม่และจ.ภูเก็ต
++++น้ำมันลดราคา สินค้าก็ต้องลดตาม ก.พาณิชย์แจ้งผู้ผลิต 23 ราย ลดราคาสินค้า 244 รายการ ตามต้นทุนน้ำมันลงทั้งหมวดอาหาร-เครื่องดื่ม วัสดุก่อสร้าง และปิโตรเลียม นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ผู้ผลิตที่แจ้งปรับลดราคาสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ซี.พี.ฟู้ดสโตร์ (ข้าวตราฉัตร) ข้าวแสนดี (ตราข้าวแสนดี) เจียเม้ง มาร์เก็ตติ้ง (ข้าวตราหงษ์ทอง) ปทุม ไรซ์ มิลล์ (ข้าวตรามาบุญครอง) ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช (ตรากุ๊ก) น้ำมันพืชไทย (ตราองุ่น) รอแยลฟู้ดส์ (ตราสามแม่ครัว) ทรอปิคอล แคนนิ่ง (ปลากระป๋องตราทีซีบี) โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย (ตราไวไว) ราชาชูรส (ตราช้อน) กลุ่มบริษัทก่อสร้าง เช่น โนวา สตีล, แปซิฟิก ไพพ์, สหวิริยา สตีล, โพสโค-ไทยน๊อคซ์, มหพันธ์ไฟเบอร์ ซีเมนต์ (ตราห้าห่วง), ไทยเฉินไวร์ แอนด์ เคเบิ้ล (ตรา ANT), อุตสาหกรรมท่อน้ำไทย, สมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (7 บริษัท ตราเสือ/TPI/อินทรี/งูเห่า/ดอกบัว/ราชสีห์/ลูกโลก) กลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ได้แก่ ปตท., บางจาก, เชลล์, เชฟรอน, บีพี-คาสตรอล นอกจากนั้น กระทรวงอยู่ระหว่างหารือกับผู้ผลิตและห้างสรรพสินค้า ในการจัดกิจกรรมลดราคาสินค้าพร้อมกันทั้งประเทศในโครงการ “เทใจ คืนสุข” ซึ่งจะมีการลดราคาสินค้าลงตั้งแต่ 15-70% คาดว่าจะจัดได้ในช่วงต้นเดือน ธ.ค.2558 ระยะเวลา 7 วัน เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง และยังเป็นการช่วยผู้ผลิตในการระบายสินค้า และช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงปลายปี
++++นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ทยอยออกมาถือว่า "เดินมาถูกทาง" โดยเฉพาะมาตรการช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ขณะที่ค่าเงินบาท ก็อ่อนค่าลง ปัจจัยเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณบวก ว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเริ่มฟื้นตัวได้ใน ปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า เนื่องจากเอสเอ็มอี ถือเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในระบบเศรษฐกิจไทยคาดการณ์ว่า อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในไตรมาส 4 ปีนี้ จะขยายตัวได้กว่า 2% ไปจนถึงระดับ 3%
+++ส่วนความท้าทายของเศรษฐกิจปีหน้า ขึ้นอยู่กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล ขณะเดียวกันมองว่า เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทย รวมถึงกำลังซื้อถึงจุดต่ำสุดแล้ว จึงเชื่อมั่นว่า ปีหน้าเศรษฐกิจและกำลังซื้อน่าจะฟื้นตัวดีขึ้น ประธานเครือสหพัฒน์ ยังประเมิน ยอดขายสินค้าของเครือสหพัฒน์ว่า ปีนี้จะไม่มี การเติบโต จากยอดขายรวมที่ระดับ 2.6 แสนล้านบาทในปีที่แล้ว โดยมีสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าแฟชั่น ในเครือมากกว่า 1,000 แบรนด์ ซึ่งเป็นไปทิศทางเดียวกับตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคโดยรวมปีนี้ที่คาดว่าจะไม่เติบโต
++++เช้าตรู่วันนี้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดบ้านแถลงข่าว หลังเกิดเหตุไฟไหม้บ้าน พร้อมแถลงข่าวเรื่องราวที่สื่ออยากรู้
+++พระพุทธะอิสระประกาศระดมพุทธศาสนิกชนแสดงพลังที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อทวงถามความคืบหน้าการดำเนินคดีพระธัมมชโย ต้องติดตามว่าจะมีมวลชนมาร่วมมากน้อยแค่ไหน อีกทั้งได้มีการให้คำมั่นว่าจะปักหลักค้างแรมจนกว่าดีเอสไอจะส่งดำเนินคดี
++++นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เรียกผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เข้าหารือเกี่ยวกับการให้ผู้ประกอบการลดราคาอสังหาริมทรัพย์ลงหลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง โดยมี รมว.คลัง ร่วมประชุมด้วย ที่กระทรวงการคลัง
++++14.00 น. พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ณ ห้องประชุม 501 ชั้น 5 อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ ซอยงามดูพลี เขตสาทร กรุงเทพฯ
++++นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลด้านความยั่งยืน SET Sustainability Awards 2015 เวลา 15.00 น. ณ หอประชุม ศ.สังเวียน อินทรวิชัย อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
+++16 ตุลาคม 2558 หวย ออก คดีเสี่ยถูกหวย 30 ล้านบาท ยังพูดกันไม่จบ ล่าสุด นายธรรมรงค์ แก้วสวนจิก ยอมรับอีกว่าเครียดจริงๆ กับเรื่องนี้ ส่วนกรณีเรื่องเมียไปฟ้องศาลหากมีหมายศาลมาตนเองก็จะไป ตอนนี้ได้ไปปรึกษาทนายความว่าจะทำอย่างไรเพราะตนเองก็ไม่รู้กฎหมาย ส่วนการวางแผนอนาคตเอาไว้หลังจากเกิดปัญหานี้ในวันสองวันนี้เตรียมทำพินัยกรรมเอาไว้ให้ลูกหากตนเองเป็นอะไรไป เงินทั้งหมดก็จะเป็นของลูกหากเขายังไม่บรรลุนิติภาวะก็จะให้พี่สาวดูแลแทน แต่หากเขาบรรลุแล้วก็ดำเนินการเองได้
+++ จากกรณีมีผู้โพสต์คลิปวิดีโอ ชายสวมเสื้อแขนยาว ลักษณะคล้ายคนจรจัด เดินเข้าไปชกชายสวมเสื้อเหลืองที่เดินสวนมา ก่อนเกิดการต่อสู้กัน ทำให้ชายสวมเสื้อเหลืองถูกต่อยและเหยียบที่ใบหน้าหลายครั้ง ท่ามกลางประชาชนที่ขับรถสัญจรไปมาตามถนนลาดพร้าว ระหว่างซอยลาดพร้าว 122-124 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ส่งชุดสืบสวน 20 นาย ออกหาข่าวเพื่อติดตามตัวชายสวมเสื้อแขนยาวสีขาว ที่ไล่ชกและทำร้ายร่างกายประชาชนที่เดินไปมาตามริมถนน เบื้องต้นทราบว่าเป็นชายอายุประมาณ 32 ปี เป็นคน อ.แม่สรวย จ.เชียงราย และเคยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลโรคประสาทมาแล้วหลายแห่ง แต่ยังไม่มีเหยื่อที่ถูกทำร้ายเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลางขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบเห็นขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
+++พญ.พรรณพิมล วิปุลากร ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล และโฆษกกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ปัจจุบันผู้คนในสังคมเผชิญปัญหา ทั้งสุขภาพ สังคม เศรษฐกิจ บางคนยอมรับสภาพปัญหา และปรับตัวได้ แต่บางคนไม่สามารถทำได้ จึงทำให้ เกิดมีภาวะทางจิตติดตามมา จากสถิติของผู้ป่วยทางจิตในประเทศไทยพบว่า มีอยู่ประมาณ 5 แสนคน ในจำนวนนี้มีเพียงร้อยละ 20 ที่เป็นผู้ป่วยทางจิตที่มีอาการผิดปกติรุนแรง ความสามารถรับรู้ตามความเป็นจริงผิดไปจากเดิม เช่น ไม่ค่อยไว้ใจคนรอบข้าง หรืออาจทำอันตรายผู้คนรอบข้าง มีพฤติกรรมโต้ตอบอย่างรุนแรง วิธีการสังเกตผู้ป่วยทางจิตควรเริ่มจากพฤติกรรมที่แตกต่างไปจากคนปกติ เช่น มีอาการกระสับกระส่าย วุ่นวาย บางทีอาจควบคุมสภาพทางจิตไม่ได้ หรือแปรความสิ่งเร้าผิดไปจากเดิม ผู้คนที่อยู่ในพื้นที่ควรอยู่ให้ห่างไว้ก่อน หรือหากเป็นคนในครอบครัว สามารถสังเกตอาการของผู้ที่มีปัญหาทางจิตได้ โดยดูจากอาการผิดปกติ จากที่ก่อนหน้านี้อาจจะเป็นคนสดใสร่าเริง เช่น นอนไม่หลับ เดินไปเดินมา มีพฤติกรรมแปลกๆ พูดคนเดียว หวาดระแวง เก็บตัว หรืออาจมีอาการประสาทหลอน และควรพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและให้การรักษาทันที