*รอบโลก:เรือผู้อพยพล่มที่กรีซอีก/ระบบก่อการร้ายสหรัฐล่ม/ฝ่ายค้านโคโซโวปาระเบิดควันกลางสภา/น้ำมันโลกดิ่ง4วัน*

ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.

+++ยังเกิดเรื่องเศร้าสำหรับผู้อพยพเข้ายุโรป เมื่อเรือไม้ลำหนึ่งซึ่งบรรทุกผู้อพยพหลายสิบคนจากตุรกีและกำลังมุ่งหน้าสู่ยุโรป เกิดอัปปางใกล้เกาะเลสบอสเมื่อวันพฤหัสบดี(15ต.ค.) หลังชนกับเรือยามชายฝั่งกรีซ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย ในนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย 4 คนเจ้าหน้าที่ยามชายฝั่งเปิดเผยว่าศพชุดแรกที่กู้ขึ้นมาได้ ประกอบด้วยร่างไร้วิญญาณของผู้หญิงคนหนึ่ง เด็กสาว 2 คนและทารก 1 ราย ส่วนอีก 3 ศพ เป็นหญิง ผู้ชายและผู้เยาว์อีกหนึ่ง ถูกพบในเวลาต่อมา  หน่วยกู้ภัยกรีซที่ได้รับการสนับสนุนจากเรือโปรตุเกสลำหนึ่งและเฮลิคอปเตอร์ของฟรอนเท็กซ์ หน่วยงานพรมแดนอียู ได้สอดส่องทั่วผืนน้ำเพื่อค้นหาผู้สุญหาย และเบื้องต้นมีรายงานว่าสามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตขึ้นมาอย่างปลอดภัยได้แล้ว 31 คน ส่วนอีก 8 คนยังสูญหาย ขณะที่เจ้าหน้าที่บอกว่าได้รับคำสั่งให้ดำเนินการสืบสวนเพื่อหาสาเหตุของเหตุเรือชนกันครั้งนี้แล้ว แม้ในเบื้องต้นตำรวจท่าเรือเผยว่าดูเหมือนเรือผู้อพยพกำลังพยายามหลบหนีเรือยามชายฝั่ง

++++ฝ่ายค้านโคโซโว ก่อความวุ่นวายในรัฐสภา ด้วยการขว้างปาแก๊สน้ำตาในที่ประชุมเป็นหนที่ 2 ในเวลาห่างกันราว 1 สัปดาห์เมื่อวันพฤหัสบดี(15ต.ค.) ท่ามกลางความพยายามประท้วงขัดขวางการทำข้อตกลงกับเซอร์เบีย   แม้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้นบริเวณทางเข้าเพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอยความยุ่งเหยิงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่เหล่าส.ส.ฝ่ายค้านก็ยังสามารถลักลอบนำแก๊สน้ำตาเข้าไปภายในและโยนแก๊สน้ำตาก่อนการประชุมจะเริ่มต้น  แกนนำฝ่ายค้านบอกกับผู้สื่อข่าวนอกรัฐสภา ฝ่ายคัดค้านไม่พอใจข้อตกลงกับเซอร์เบียที่มีอียูเป็นคนกลาง โดยเฉพาะแผนจัดตั้งองค์กรเทศบาลบริหารงานโดยเซิร์บ ซึ่งเป็นการมอบอำนาจในการปกครองตนเองเพิ่มขึ้นแก่ชนกลุ่มน้อยชาวเซิร์บของโคโซโว  รัฐบาลชี้แจงว่าองค์กรนี้จะไม่มีอำนาจบริการใดๆ แต่ฝ่ายค้านเชื่อว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะยิ่งทำให้เกิดความแตกแยกทางเชื้อชาติหนักขึ้นและเพิ่มอำนาจแก่เซอร์เบียในโคโซโว  

+++รัฐบาลออกถ้อยแถลงประณามพฤติกรรมผิดกฎหมายและไม่มีขื่อแปของฝ่ายค้าน ที่ไม่สอดคล้องกับหลักจริยธรรม ศีลธรรมและธรรมเนียมประชาธิปไตย แต่พวกผู้ประท้วงที่เคยทั้งเป่านกหวีดและปาไข่ก่อความวุ่นวายแก่การประชุมคราวก่อนๆ ประกาศจะขัดขวางการประชุมอย่างไม่ลดละ จนกว่ารัฐบาลจะยอมล้มเลิกข้อตกลงอันเป็นที่โต้เถียงนี้

++++เกิดความโกลาหลขึ้นในทุกสนามบินทั่วสหรัฐฯเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2558 หลังจากระบบฐานข้อมูลตรวจสอบผู้ก่อการร้ายของกระทรวงมาตุภูมิและความมั่นคงสหรัฐฯเกิดล่มเป็นเวลานานร่วม 90 นาที ทำให้มีเที่ยวบินบางส่วนต้องดีเลย์ และทำให้ผู้โดยสารต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศต้องกรอกข้อมูลบนแบบฟอร์มสีเขียวแทนในระหว่างที่เครื่องคอมพิวเตอร์จุดลงทะเบียนไม่ทำงาน เหตุโกลาหลตั้งแต่สนามบินแอลเอ รัฐแคลิฟอร์เนีย ไปจนถึงสนามบินเจเอฟเค รัฐนิวยอร์ก แต่เจ้าหน้าที่ประสบความสำเร็จสามารถกู้กลับคืนมาได้เมื่อเวลา 21.00

+++รัสเซียเผยในวันพฤหัสบดี(15ต.ค.) ว่าเครื่องบินรบของพวกเขาได้ลดระดับการโจมตีทางอากาศในซีเรีย หลังกองกำลังรัฐบาลเดินหน้าขยายการจู่โจมทางภาคพื้น ส่วนประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน วิจารณ์สหรัฐ ไม่ให้ความร่วมมือในวิกฤตความขัดแย้งนี้ ขณะที่ ตุรกีและซาอุดีอาเบีย 2 ชาติที่หนุนหลังฝ่ายกบฏ ที่ระบุว่าการเข้าแทรกแซงทางทหารเพื่อช่วยเหลือประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด คือความผิดพลาด

+++เคบีเอ หน่วยงานกำกับดูแลด้านรถยนต์ของเยอรมนีสั่งให้บริษัทโฟล์กสวาเกน ผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกของเยอรมนี เรียกคืนรถยนต์ 2.4 ล้านคันในเยอรมนี หลังเกิดกรณีเอื้อฉาวเรื่องการโกงวัดค่าไอเสียของรถรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล นอกจากนี้ เคบีเอ ปฏิเสธข้อเสนอก่อนหน้านี้จากบริษัทโฟล์กว่าเจ้าของรถควรจะนำรถไปรับการซ่อมแซมโดยสมัครใจ ขณะเดียวกัน ตำรวจอิตาลีได้บุกตรวจค้นที่ทำการของบริษัทโฟล์กในเมืองเวโรนาและที่ทำการของรถยนต์ลัมโบร์กินีในเมืองโบโลญญา สื่อท้องถิ่นระบุว่าพนักงานอัยการอยู่ระหว่างการสอบสวนในความผิดฐานฉ้อโกงทางการค้า

++++ราคาน้ำมันปิดลบ 4 วันติดเมื่อวันพฤหัสบดี(15ต.ค.) หลังพบสต๊อกเชื้อเพลิงสหรัฐฯเพิ่มขึ้น  ถึง 7.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายเกือบ 3 เท่า  การเพิ่มขึ้นดังกล่าวส่งผลให้สต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯอยู่ที่ 468.6 ล้านบาร์เรล ยังแกว่งตัวในระดับสูงสุดในรอบอย่างน้อยๆ 8 ทศวรรษ น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 26 เซนต์ ปิดที่ 46.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 44 เซนต์ ปิดที่ 48.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  +++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(15ต.ค.) ทะยานอย่างแข็งแกร่ง ตามความเคลื่อนไหวของตลาดทุนทั่วโลก จากความเชื่อมั่นมากขึ้นเรื่อยๆว่าธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) จะเลื่อนเวลาปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไป   ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 217.00 จุด (1.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,141.75 จุด

+++ส่วนราคาทองคำเมื่อวันพฤหัสบดี(15ต.ค.) ปิดบวก 5 วันติด แตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 7.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,187.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

++++โรงพยาบาล "รอยัล ฟรี" ในกรุงลอนดอน ออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธ เกี่ยวกับอาการของนางพอลลีน คัฟเฟอร์คีย์ พยาบาลชาวสกอตวัย 39 ปี  ซึ่งล้มป่วยจากเชื้อไวรัสอีโบลาเป็นครั้งที่สอง ว่าอาการของเธออยู่ในขั้น "วิกฤติ"  ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่นกักบริเวณผู้ที่มีประวัติใกล้ชิดกับคัฟเฟอร์คีย์ในระยะนี้แล้ว 58 คน ในจำนวนนี้ 48  คนสัมผัสกับของเหลวจากร่างกายของเธอโดยตรง ซึ่งเป็นพาหะสำคัญของการแพร่เชื้อไวรัสอีโบลา แต่ 25 คน จากกลุ่ม 48 คนได้รับวัคซีนแล้ว นอกจากนี้ คัฟเฟอร์คีย์อาจเป็นผู้ป่วยเคยติดเชื้อไวรัสอีโบลาคนที่ 2 ที่สามารถบันทึกข้อมูลได้ว่า เชื้อกลับมา "คืนชีพ" หลังนพ.เอียน โครเซียร์ แพทย์ชาวอเมริกันซึ่งติดเชื้อถึง 2 ครั้ง และเชื้อลามถึงดวงตาในครั้งที่ 2 แต่สามารถรักษาจนหายได้  คัฟเฟอร์คีย์ติดเชื้อไวรัสมรณะเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ขณะทำงานอยู่ในเซียร์ราลีโอน  ก่อนเข้ารับการรักษา จนหายขาดเมื่อช่วงเดือนม.ค.ปีนี้ อย่างไรก็ตาม เธอกลับล้มป่วยอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

+++เอเอฟพี รายงานอ้างสหภาพแรงงานแอร์ฟรานซ์ของฝรั่งเศสว่า สายการบินได้สั่งพักงานคนงาน 5 คน โดยไม่จ่ายเงินเดือนให้ หลังการบุกเข้าก่อเหตุรุนแรงระหว่างการประชุมของผู้บริหารกับตัวแทนพนักงานเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม เมื่อกลุ่มแรงงานที่คัดค้านแผนปลดคนงานตามมาตรการประหยัดค่าใช้จ่ายครั้งใหม่ของบริษัทฯ ได้ ทั้ง 5 คนถูกระบุว่า ปรากฏในคลิปวีดีโอที่บันทึกไว้ได้ที่ด้านนอกที่ทำการใหญ่ของบริษัทใกล้สนามบินชาร์ลส์ เดอ โกล มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยบาดเจ็บ 2 คน นอกจากนี้ พนักงานและคนงานในแผนกขนส่งสินค้าของแอร์ฟรานซ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 2 ธันวาคม พวกเขาอาจจะถูกปรับ 45,000 ยูโรและจำคุก 3 ปี