รอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลอิสราเอลสั่งการให้สำนักงานตำรวจตั้งด่านตรวจพื้นที่ชุมชนปาเลสไตน์ในเขตอีสต์เยรูซาเล็ม กรุงเยรูซาเล็มในวันนี้ พร้อมทั้งระดมทหารเข้าไปร่วมดูแลสถานที่สำคัญๆตามถนนหลักๆในเมืองหลวง เพื่อควบคุมสถานการณ์หลังเกิดเหตุรุนแรงหนักที่สุดในรอบหลายปีในหลายท้องที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในกรุงเยรูซาเล็มและเขตเวสต์แบงค์ที่อยู่ในความควบคุมของอิสราเอลในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ในการประชุมรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงเมื่อช่วงเช้าวันนี้ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู อนุมัติข้อเสนอเรื่องการเพิกถอนสิทธิ์การตั้งถิ่นฐานของชาวปาเลสไตน์ที่ทำผิดในคดีก่อการร้าย พร้อมทั้งเร่งเดินหน้าการรื้อทำลายบ้านเรือนของชาวปาเลสไตน์ที่ลงมือก่อเหตุโจมตีในลักษณะต่างๆเช่น การกราดยิง การใช้มีดแทง การขับรถยนต์พุ่งชน และการใช้กำลังปราบปรามของเจ้าหน้าที่ความมั่นคงตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีชาวอิสราเอลเสียชีวิต 7 ศพ ชาวปาเลสไตน์ 30 ศพ รวมถึงเด็กและคนร้ายหลายศพ
สำหรับสาเหตุของเหตุวุ่นวายเกิดจากหลายสาเหตุ แต่ชาวปาเลสไตน์ไม่พอใจสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า ชาวอิสราเอลบุกรุกพื้นที่มัสยิดอัล-อักซาในเขตโอลด์ ซิตีของกรุงเยรูซาเล็ม มากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับพื้นที่ดังกล่าวเป็นศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ทั้งสำหรับชาวมุสลิมและชาวยิว ด้านนายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯกล่าวว่าเขาจะเดินทางไปเยือนอิสราเอลในเร็วๆนี้ เพื่อช่วยหาทางลดความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์/14.51