*รองนายกฯ แจงรัฐอาจถูกฟ้องกลับหากไม่ดำเนินคดีจำนำข้าว ขอทำความเข้าใจไม่ตอบโต้*

ความคืบหน้าการรวบรวม 12คดีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ไปรวบรวมคดีที่น่าสนใจ นายวิษณุ เปิดเผยว่า 1 ใน 12 คดีที่น่าสนใจ  คือ การเรียกค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งการฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เป็นการฟ้องที่เข้าข่ายทุจริต แต่ฟ้องในความผิดประมาทเลินเล่อร้ายแรงจนรัฐเสียหาย ซึ่งคำสั่งที่ให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าเสียหายนี้ถ้าเห็นว่าไม่ชอบก็คงต้องไปพูดคุยกันในศาล ต่อจากนี้ รัฐบาลจะไม่ขอตอบโต้อีก

นอกจากการพูดเพื่อสร้างการรับรู้ให้ประชาชนได้เข้าใจ ยืนยันคำสั่งนี้สามารถดำเนินการครอบคลุมกับเจ้าหน้าที่รัฐ พนักงานราชการ รวมทั้งกรรมการที่เกี่ยวข้องได้ ภายใต้การดำเนินการของ พ.ร.บ.ความรับผิดทางเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ซึ่งการดำเนินการนี้ก็อยู่ภายในระยะเวลา 2ปี มิฉะนั้นถ้าไม่ฟ้องในอนาคต สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ก็จะมาฟ้องรัฐบาลได้ในอนาคต ฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่

ส่วนการรวบรวมข้อมูลของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องจากกระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ ที่ล่าช้า เนื่องจากต้องรอพิจารณาให้เสร็จก่อน ให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จากนั้นจะส่งให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา เพื่อให้คณะกรรมการความรับผิดชอบทางแพ่ง และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พิจารณาว่า เห็นด้วยหรือไม่ และจะส่งเรื่องกลับมาที่กระทรวง และกระทรวงก็จะต้องแจ้งให้ผู้ที่ถูกกล่าวหารับทราบ ก่อนส่งให้ทางฝ่ายตุลาการไปดำเนินการต่อไป ซึ่งถ้าฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาไม่เห็นด้วย ก็ไปขออำนาจของศาลปกครองร้องขออำนาจในการเพิกถอนได้

ส่วนคดีคลองด่าน ที่รัฐถูกทางฝ่ายเอกชนเป็นผู้ร้อง และศาลปกครองสูงสุดก็พิจารณาให้รัฐต้องชดเชยค่าเสียหาย นายวิษณุ กล่าวว่า มีการเจรจราขอผ่อนปรน เอกชนได้ยอมลดเงินต้นไปจำนวนหนึ่ง ส่วนคดีทุจริตการก่อสร้างโรงพัก ไม่ได้รวมอยู่ใน 12คดีนี้ หากพบคดีเพิ่มเติมที่เข้าข่ายกระทรวงยุติธรรมก็จะทำเรื่องเสนอมาให้พิจารณา

ผู้สื่อข่าว:วิรวินท์ ศรีโหมด