*นายกฯสั่งศึกษาข้อดี-ข้อเสียง TPP/ย้อนคดีจำนำข้าวต้องฟ้องร้องเพราะเกิดความเสียหาย*

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ถึง การพิจารณาเข้าเป็นหุ้นส่วนสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิค TPP ของไทย โดยให้หน่วยงานด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบข้อดีข้อเสียของการลงนาม หลังพบว่า เอกชนสนใจประเด็นดังกล่าวจำนวนมาก จึงขอให้หน่วยงานที่ตัดสินใจมีความรอบคอบ ไม่ต้องเร่งรีบ และให้นำมาเสนอในสัปดาห์หน้าเพื่อกำหนดท่าทีของไทยต่อไป

นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้ติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งการช่วยเหลือSME การลดหย่อนภาษีเงินได้ การค้ำประกันสินเชื่อ และเงินทุนระดับตำบลหมู่บ้านและชุมชนเมือง นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้ คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ  หรือ กรอ.จังหวัด ดำเนินการขับเคลื่อนแผนงานให้สอดคล้องกับนโยบาย ที่นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีจะได้ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานต่อไป

ส่วนแนวทางมาตรการกระตุ้นการปรับเปลี่ยนวิธีการปลูกพืชในช่วงภัยแล้ง ที่ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และคสช. เป็นผู้รับผิดชอบในการกำหนดแนวทางการดำเนินการจูงใจเกษตรกรด้วยวิธีการจ้างผลิต ซึ่งเกษตรกรจะได้รับเงินได้สามส่วน คือค่าเช่าที่ ค่าจ้างในการปลูกพืชที่ไม่ใช่ข้าว และกำไรจากการขายหลังแบ่งส่วนกับรัฐตามที่ตกลงกัน โดยนายกรัฐมนตรี จะขอรับทราบผลการศึกษาและแนวปฏิบัติภายใน 1 เดือน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้มีข้อสั่งการ ให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ติดตามข้อมูลการฟ้องร้องคดีความระหว่างรัฐบาลไทย กับบริษัทต่างประเทศ ในประเทศ ข้าราชการ และ หน่วยงานที่ประกอบธุรกิจ โดยพิจารณาคดีสำคัญที่มีเงินในการฟ้องร้องสูง  โดยหน่วยงานเจ้าของเรื่อง ต้องติดตามและรับทราบแนวทางการดำเนินงาน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศต่อไป

ส่วนคดีจำนำข้าว นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าไม่เคยกล่าวหาว่าเป็นนโยบายที่ทุจริต หรือกล่าวหาว่าใครทุจริต แต่มีข้อกล่าวหาว่า นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ทำไมถึงปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำทุจริตทั้งที่มีการร้องเรียนมาแล้ว จนเกิดความเสียหายจำนวนมาก โดยต้องดูว่าปฏิบัติด้วยความจงใจ หรือประมาทเลินเล่อ ส่วนจะชดใช้หรือไม่ชดใช้ค่าเสียหายนั้น ต้องดำเนินการ ฟ้องร้องตามกระบวนการต่อไปโดยเป็นไปตามกฎหมาย