ปศุสัตว์ชี้เหตุโคนมตายที่เพชรบุรี-ประจวบฯกินกากเอธานอลมีเชื้อรา

12 ตุลาคม 2558, 21:06น.


หลังเกษตรกรโคนม จำนวน 30 ราย รวมตัวที่หน้าศาลากลาง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อยื่นหนังสือขอรับความช่วยเหลือจากทางราชการ จากกรณีโคนมตายโดยไม่ทราบสาเหตุ โดย นายสมชาย บำรุงทรัพย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เชิญตัวแทนกลุ่มเกษตรโคนมเข้าประชุม พร้อมด้วย นายเสน่ห์ หินสี รักษาราชการแทนปศุสัตว์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายบัญชา โชติรัตนฤทธิ์ ประธานชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคใต้และภาคตะวันตก และประธานกรรมการดำเนินการชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทยจำกัด



ในที่ประชุมเกษตรกร กล่าวว่า ลักษณะของวัวที่ตาย คือ มีอาการ ซึม มีไข้ ฉี่เป็นสีโค้ก และตายในเวลาไม่กี่วัน มีเกษตรกรโคนม ในสหกรณ์โคนมไทย–เดนมาร์ก ประจวบคีรีขันธ์ จำกัด และ สหกรณ์โคนมกุยบุรี จำกัด ได้รับผลกระทบ ปัจจุบันมีวัวตายทั้งหมด 144 ตัว และมีแนวโน้มว่าจะมีวัวตายอีกหลายสิบตัว ทั้งนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดจากอะไร



ล่าสุด นายวินัย นาเอก ปศุสัตว์อำเภอพัฒนานิคม จ.ลพบุรี ได้ทำหนังสือ ประชาสัมพันธ์ ถึงเกษตรกรในจังหวัด ถึงสาเหตุการตายของโคนม ในพื้นที่เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์  พบว่า เกษตรกรนำกากเอทานอลให้โคกิน พบว่ามีเชื้อราในกากเอธานอลจำวนมาก ผลการตรวจเลือดโคทางห้องแลปพบว่า เอนไซน์ตับ SGPT/SGOTและไต(Creatinine kinase)ขึ้นสูงมาก แสดงว่า ตับและกล้ามเนื้อถูกทำลาย เบื้องต้น กรมปศุสัตว์ แนะนำให้เกษตรกรหยุดใช้กากเอทานอลเลี้ยงโค เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ระมัดระวังอาหารที่จะเลี้ยงโค  และตรวจสอบให้มั่นใจว่า ไม่มีการปนเปื้อนของสารพิษ ควรเลือกใช้อาหารโคที่มีทำเนียนสูตรอาหารสัตว์



ขณะที่ นายบัญชา โชติรัตนฤทธิ์ ประธานชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคใต้และตะวันตก กล่าวว่า ขอให้สรุปสาเหตุการตายที่ชัดเจนว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ขณะนี้ได้ขอให้หยุดใช้กากมันชั่วคราว ก่อนยื่นหนังสือผ่านจังหวัด และกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่ามีมาตรการความช่วยเหลือจากทางราชการอย่างไรบ้าง เนื่องจากเกษตรกรโคนม เสียหายตั้งแต่รายละหลักแสนถึง 2 ล้านบาท ขอให้ช่วยเหลือในเบื้องต้น ซึ่งบางรายต้องกู้เงินมาลงทุน ประกอบกับวัวในฟาร์ม เริ่มทยอยตายเรื่อยๆ อย่างไม่หยุด ส่วนคุณภาพน้ำนมไม่มีปัญหา สามารถบริโภคได้ตามปกติ



ข่าวทั้งหมด

X