สถานการณ์สู้รบในซีเรีย ยังคงตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่กลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส สังหารผู้บัญชาการสูงสุดของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน ขณะตรวจเยี่ยมพื้นที่ทางตอนเหนือของจังหวัดอเลปโปของซีเรีย
ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวปกป้องปฏิบัติการของกองทัพรัสเซียในซีเรีย ว่ามีเป้าหมายหลักคือการสร้างความมั่นคงให้แก่รัฐบาลที่มีที่มาถูกต้องตามกฎหมาย คือรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด โดยในการกล่าวผ่านทีวีมอสโกว์ที่เป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของรัสเซีย เขากล่าวว่า ต้องการเสริมสร้างบรรยากาศที่ดีในทางการเมืองซีเรีย ทั้งปฏิเสธว่า รัสเซียไม่ได้มุ่งโจมตีกองกำลังฝ่ายค้านมากกว่าการโจมตีกลุ่มไอเอส ซึ่งในความเป็นจริงปฏิบัติการของกองทัพรัสเซีย สามารถสร้างความเสียหายต่อกลุ่มหัวรุนแรงได้อย่างชัดเจน และฝ่ายรัฐบาลสามารถยึดคืนจังหวัดอิดลิบ ฮามาและลาตาเกียได้แล้ว โดยสนามรบหลักๆ อยู่ใกล้กับทางหลวงสายสำคัญที่เชื่อมระหว่างเมืองหลวง กับเมืองอื่นๆ ที่รวมถึงอเลปโป ซึ่งคาดว่าฝ่ายทางการกำลังพยายามตัดขาดกลุ่มกบฏในอิดลิบ โดยประธานาธิบดีปูตินยอมรับว่า นักรบฝ่ายกบฏเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้กับกรุงดามัสกัสแล้ว
อย่างไรก็ตามกองทัพสหรัฐที่เป็นผู้นำของกองกำลังนานาชาติในการปราบปรามกลุ่มไอเอสในซีเรียและอิรัก ระบุว่าไม่ได้รับความร่วมมือจากกองทัพรัสเซีย ส่วนอีกหลายประเทศรวมถึงอังกฤษและตุรกีที่เห็นว่าการที่รัสเซียสนับสนุนประธานาธิบดีอัสซาดนั้นเป็นความผิดพลาด แต่กองทัพรัสเซียก็ประกาศว่า เมื่อวันอาทิตย์ กองทัพรัสเซียยิงจรวดมิสไซล์ไปมากกว่า 60 ลูกในช่วง 24 ชั่วโมงซึ่งทั้งหมดคือเป้าหมายกลุ่มไอเอส
...