เกิดเหตุยิงกันภายในมหาวิทยาลัย 2 แห่งในสหรัฐฯ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยนอร์ธเทิร์น อริโซนา รัฐอริโซนา เมื่อกลางดึกของคืนวันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนและบาดเจ็บ 3 คน ทั้งหมดเป็นสมาชิกสมาคมนักศึกษาชายเดลตา ชี หลังเกิดเหตุ ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ และระบุว่าคือนายสตีฟ โจนส์ วัย 18 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัย ซึ่งยอมรับสารภาพว่า เขาไม่ได้เป็นสมาชิกสมาคมดังกล่าว แต่ก่อนเกิดเหตุ เขาถูกกลุ่มนักศึกษาชายดังกล่าวตามระรานจนมาถึงที่จอดรถ จึงตัดสินใจชักปืนที่อยู่ในรถออกมายิงใส่ จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ตำรวจได้ตั้งข้อหาฆ่าคนตาย และพยายามฆ่า รวมทั้งระบุว่า จากการตรวจสอบทราบว่า กลุ่มนักศึกษาชายไม่ได้มีการพกพาอาวุธ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนอร์ธเทิร์น อริโซนา แสดงความเสียชีวิตต่อเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันว่า ปกติมหาวิทยาลัยไม่เคยมีเหตุรุนแรงเช่นนี้เกิดขึ้น ขณะที่นายจอห์น แมคเคน วุฒิสมาชิกรัฐอริโซนา ออกแถลงการณ์ระบุว่าเขากำลังสวดมนต์ให้กับทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น
ส่วนที่มหาวิทยาลัยเท็กซัส เซาเทิร์น รัฐเท็กซัส ก็ได้เกิดเหตุยิงกันที่หอพักนักศึกษา เมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 และมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน หลังเกิดเหตุตำรวจ สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 2 คน และเชื่อว่ามีผู้ต้องสงสัยอีกหนึ่งคนอยู่ระหว่างการหลบหนี เหตุรุนแรงทั้งสองเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของผู้เสียชีวิตจำนวน 9 คน จากเหตุการณ์กราดยิงภายในมหาวิทยาลัยในรัฐโอเรกอน เมื่อสัปดาห์ก่อน ท่ามกลางกระแสความเห็นต่างเรื่องสิทธิในการครอบครองอาวุธปืนโดยถูกกฎหมาย โดยผู้นำสหรัฐฯ ประกาศว่าควรทบทวนกฎหมายการครอบครองอาวุธปืน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะที่ชาวอเมริกันบางส่วนยืนยันถึงความจำเป็นในการครอบครองอาวุธปืนโดยถูกกฎหมาย
ทีมข่าวต่างประเทศ