การแก้ไขปัญหายางพาราตกต่ำ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า คณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย ได้ชี้แจง มีมาตรการในการช่วยเหลือผู้ที่ประกอบอาชีพสวนชาวสวนยางพาราในการ โดยจะให้เงินเป็นสวัสดิการตามกฎหมาย โดยจะแจ้งให้นายกรัฐมนตรีรับทราบและเห็นชอบ เพื่อให้เข้าไปดูแลเสถียรภาพราคายางพารา
สำหรับสต๊อกยางพาราล็อตเดิมที่มีอยู่ กว่า 200,000 ตัน ขณะนี้ประเทศจีนได้ สั่งซื้อสต็อกยาพาราดังกล่าวในราคา 42 บาทต่อกิโลกรัมแล้ว ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มผู้ส่งออกเอกชนรายใหญ่ของไทย ได้ประสงค์ที่จะซื้อในส่วนนี้ไปแปรรูปในราคาที่ใกล้เคียงกัน เบื้องต้น จะพูดคุยว่าใครจะให้ราคาสูงกว่ากัน และจะมีกำหนดการจัดส่งภายในระยะเวลาที่ชัดเจน โดยเรื่องนี้พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้พิจารณาว่าจะเห็นชอบว่าจะขายยางในส่วนนี้ให้แก่ใคร
ส่วนสต็อกยางพาราอีกจำนวน 100,000 กว่าตัน ภาคเอกชนจะซื้อในราคาใกล้เคียงกับราคาตลาด พร้อมคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในระยะเวลาอีกไม่นาน โดยสต๊อกยางพาราทั้ง 2 ส่วนจะมีความชัดเจนในการทยอยขายยางพาราในสต็อกออกก่อนที่จะเริ่มกรีดยางพาราในฤดูใหม่การกรีดใหม่ในเดือน พ.ย. 58นี้ ส่วนข้อเรียกร้องของชาวสวนยางพาราที่อยากจะให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องราคายางพารานั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า แนวทางในการช่วยเหลือจะต้องคำนึงถึงการสร้างความเข้มแข็งในการผลิตแปรรูปและเก็บรักษาด้วย โดยแนวทางต่างๆจะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันอังคาร ที่ 13 ตุลาคมนี้
ส่วนการตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจระดับจังหวัด หรือ กรอ.จังหวัด นั้น นายสมคิด เปิดเผยว่า กรอ.จังหวัดยังคงจะมีอำนาจเท่าเดิม แต่ความรับผิดชอบจะเพิ่มมากขึ้น โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นผู้ขับเคลื่อนหลักในแต่ละจังหวัด และปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ตามความสมดุล การเติบโตจากภายในจากภายนอก ของจังหวัด ทั้งในด้านการส่งออก การเกษตร การผลิต และการท่องเที่ยว ซึ่งการติดตามงานต่างๆ นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ไปติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการของ กรอ.จังหวัดในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยคาดว่าในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ ก็จะลงพื้นที่ในภาคใต้เป็นที่แรก ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นที่มีจังหวัดสุราษฎร์ธานี