แนวทางการร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่นี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฏหมาย กล่าวถึงมาตรา35 ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวพ.ศ.2557 ที่ ระบุเกี่ยวกับการทุจริตของนักการเมือง ว่า ต้องให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. ไปคิดรายละเอียดเอง ส่วนจะเป็นอุปสรรคในการเข้าสู่การเมืองหรือไม่ ก็แล้วแต่ว่าภายใต้กรอบนั้นจะมีการเขียนว่าอย่างไร แต่หากยึดตามกฎหมายท้องถิ่นทุกฉบับเช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด อบจ.,องค์การบริหารส่วนำบล อบต. ,เทศบาล หรือ กทม. ได้เขียนไว้ว่า คนที่ถูกให้ออกเพราะทุจริตไม่สามารถกลับเข้ามาสมัครได้อีกตลอดชีวิต จึงเป็นการเปรียบเทียบระหว่างการเมืองระดับท้องถิ่น และการเมืองระดับชาติ ว่าถ้ามีการทุจริตคดโกงมีคำวินิจฉัยชี้ขาดแล้วเมื่อพ้นโทษจะให้เข้ามาเล่นการเมืองได้อีกหรือไม่ ซึ่งมาตรา 35 ไม่ได้พูดถึงส่วนนี้ จึงเป็นหน้าที่ของ กรธ.ชุดของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ที่จะต้องไปคิดมาว่าจะเขียนอย่างไร โดยยึดกรอบตามมาตรา 35 อย่างเคร่งครัด
ส่วนตัวมองว่า คนที่ทุจริตไม่ควรกลับมาเล่นการเมือง แต่ก็ต้องไปดูด้วยว่าการทุจริตนั้นถึงขั้นใด แค่ทางสำนักป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ป.ป.ช. ขี้มูล หรือเป็นคำตัดสินของศาล ซึ่งมาตรา 35 ไม่ได้ระบุไว้ จึงขึ้นอยู่กับ กรธ. ซึ่งโดยหลักแล้วควรเขียนให้ชัดเจนแต่ไม่ควรมีผลย้อนหลัง เช่นเดียวกับร่างของนายบวรศักดิ์ ที่ไม่มีผลย้อนหลังไปถึงกลุ่ม บ้านเลขที่ 111 และ109 ส่วนขอเสนอแก้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวเพื่อหาทางออก หากทำประชามติไม่ผ่านนั้น รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวว่า ต้องหาจังหวะเวลาที่เหมาะสม ถ้าไม่เหมาะสมจะถูกกล่าวหาว่าเตรียมไว้สำหรับกรณีที่ไม่ผ่าน ซึ่งรัฐบาลไม่อยากให้เกิดความรู้สึกว่ารัฐธรรมนูญจะไม่ผ่านการทำประชามติ ซึ่งรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่านขอให้ดูที่เนื้อหา
สำหรับ ข้อเสนอของสหภาพยุโรป (อียู) ต้องการดูรัฐธรรมนญของไทยเป็นหลักในการพิจารณาข้อตกลงต่างๆ นายวิษณุ ระบุว่า รัฐบาลเองก็รอดูรัฐธรรมนูญอยู่เช่นกัน ส่วนกรณีที่นายมีชัย ระบุว่า จะนำรัฐธรรมนูญฉบับเก่าๆมาปัดฝุ่นใหม่นั้น ก็ต้องไปถามนายมีชัย หรือโฆษก กรธ.เอง เพราะเข้าใจว่ายังไม่มีการพูดคุยกับ คณะรักษาความกงบแห่งชาติ คสช. รวมถึงประเด็นที่เป็นปัญหา เรื่องคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ(คปป.) ยืนยันว่า รัฐบาลและ คสช. ไม่ได้คุยเรื่องนี้กับ กรธ. เพราะให้อำนาจการตัดสินใจกับ กรธ. เต็มที่
ขณะที่ การรวบรวมความเห็นถึงข้อบกพร่องในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายบวรศักดิ์นั้น ขณะนี้คณะทำงานรวบรวมข้อมูลยังไม่แล้วเสร็จ ทั้งนี้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมีบทบัญญัติเรื่องการปรองดองหรือไม่ ส่วนตัวไม่ทราบ เพราะต้องไปถามบุคคลที่ร่างเอง ซึ่งจะไปสอนเขาได้อย่างไร หากถ้าหากมีอะไรก็แนะนำส่วนตัวจะไปคุยเอง
รองนายกรัฐมนตรี ปฎิเสธข่าวรู้สึกกับ ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) จะนั่งตำแหน่งประธาน สปท. ว่าไม่ได้รู้จักตั้งแต่ปี 2516 ตามที่ข่าว เพราะช่วงนั้น ส่วนตัวไปศึกษาที่ต่างประเทศ ซึ่งก็ได้มารู้จักในช่วงเป็นสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ในสมัย พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่า ถึงแม้ร.อ.ทินพันธุ์ จะมีอายุถึง 81 ปี ก็ยังมีความแข็งแรง จึงถือว่ามีความเหมาะสมที่จะมาทำหน้าที่ดังกล่าว ขณะเดียวกันที่ผ่านมาก็มีการเสนอชื่อบุคคลอื่นที่มีความเหมาะสมด้วยเช่นกัน จึงเป็นหน้าที่ของที่ประชุม สปท. ที่ต้องคัดเลือก
แฟ้มภาพ