*ทีดีอาร์ไอ เสนอแนวทางลดความขัดแย้งจากการแย่งน้ำในช่วงฤดูแล้ง*

มาตรการในการบริหารจัดการและรับมือปัญหาภัยแล้ง นายนิพนธ์ พัวพงศธร นักวิชาการเกียรติคุณสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) และหัวหน้าโครงการวิจัยการปฏิรูปจัดการน้ำ แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักของประเทศว่าอาจเกิดวิกฤติการแย่งน้ำ โดยเมื่อเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยปริมาณน้ำในเขื่อนขณะนี้น้ำมีเพียง 3,200 -3,300 ลูกบาศก์เมตร จากปริมาณปริมาณน้ำที่ควรจะมี 10,000 ลูกบาศก์เมตร คาดว่าในวันที่ 1 พ.ย. จะเป็นการเริ่มต้นของฤดูแล้ง และมีโอกาสเกิดวิกฤติการแย่งน้ำและการทำเกษตรจึงต้องมีการเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส โดยให้กลุ่มผู้ใช้น้ำ ที่ไม่เพียงแต่เกษตรกร แต่รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาคการเกษตรและอุตสาหกรรม เป็นตัวแทนเข้ามาอยู่ในคณะกรรมการในการจัดสรรน้ำ ร่วมกับกรมชลประทาน และติดตามสถานการณ์ในพื้นที่การใช้น้ำของตัวเอง เพราะจะพึ่งเจ้าหน้าที่รัฐเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ ซึ่งการดำเนินการเช่นนี้จะทำให้การแบ่งสรรปันส่วนน้ำเกิดความเป็นธรรมและสามารถลดความขัดแย้งของผู้ใช้น้ำได้ นอกจากนี้จะต้องมีกฎกติกาไม่ให้มีการนำน้ำไปใช้นอกเหนือไปจากที่ตกลงกันไว้

ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวเป็นการเพิ่มเติมจาก 8 มาตรการ คือการส่งเสริมความรู้และสนับสนุนปัจจัยการผลิตเพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน การชะลอหรือขยายระยะเวลาชำระหนี้กับสถาบันการเงิน การจ้างงานสร้างรายได้แก่เกษตรกร การเสนอโครงการตามความต้องการของชุมชน การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ การเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน การส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มาตรการสนับสนุนอื่น ๆ ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกมาก่อนหน้านี้ เพื่อลดความขัดแย้งในการแย่งน้ำหากเกิดภัยแล้งได้

ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี