*บช.น.สั่งส.ต.ต.มือกระสุนปริศนาช่วยราชการ รับยืงปืนจริงเพื่อป้องกันตัวช่วงล่อซื้อยา*

09 ตุลาคม 2558, 11:51น.


เหตุกระสุนปืนปริศนายิงใส่รถยนต์มิตซูบิชิ รุ่นแลนเซอร์ สีขาว ทะเบียน กฉ 4255 จันทบุรี บริเวณกระจกหน้าด้านซ้ายฝั่งผู้โดยสาร โดยมี น.ส.ฐิติยา สงรัตน์ อายุ 48 ปี เป็นคนขับ และทำให้ น.ส.อานัตตา สงรัตน์ อายุ 15 ปี บุตรสาวเรียนอยู่ชั้นม.4 ที่นั่งด้านข้างนางฐิติยา ถูกกระสุนลูกหลงโดนบริเวณไหล่ขวาได้รับบาดเจ็บ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงพร้อม พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ว่าในวันที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการปฎิบัติหน้าที่จริง ระหว่างที่กำลังดำเนินการล่อซื้อยาเสพติดจากผู้ต้องหาแต่ผู้ต้องหาไหวตัวทัน และพยายามจะยิงสวนกลับมา เจ้าหน้าที่จึงต้องป้องกันตัว ด้วยการยิงปืน แต่ในวันที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าว คือ ส.ต.ต. ปณณธร  ไชยญาธรรม ผู้บังคับหมู่ชุดปราบปรามสน.นิมิตรใหม่ ช่วยราชการด้านการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งในวันนี้ได้มาร่วมแถลงข่าวด้วย เปิดเผยว่า ไม่ทราบว่ากระสุนปืนพลาดไปถูกใคร และไปปฎิบัติหน้าที่ตามเดิม จนกระทั่งวันรุ่งขึ้น เมื่อทราบข่าวจึงแสดงความบริสุทธิ์ใจเดินทางไปพบและมอบปืนให้กับผู้บังคับบัญชา สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล 3 และมีการประสานมาที่พล.ต.ต. ศานิตย์ จึงนำตัวมาแถลงแสดงเจตนาบริสุทธิ์ไม่ได้ประสงค์จะให้ใครได้รับอันตราย



พล.ต.ต.ศานิตย์ กล่าวว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ด้วย ยังไม่ได้แจ้งข้อหา จะให้มาปฎิบัติราชการที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลก่อน  อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้ผู้บาดเจ็บอาการดีขึ้น ถึงจะผ่ากระสุนปืนว่าตรงกับกระสุนปืนของส.ต.ต. ปณณธร  หรือไม่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะติดตามความคืบหน้าของคดีและตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมด้วย และช่วงบ่ายนี้ ส.ต.ต. ปณณธร จะเดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บด้วย



ส.ต.ต.ปณณธร เล่าถึงเหตุการณ์ในช่วงที่มีการลั่นกระสุนปริศนาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ส่งสายสืบซึ่งเป็นหญิงสาวรายหนึ่งเข้าทำการล่อซื้อยาบ้าจากกลุ่มคนร้าย ซึ่งคนร้ายได้มีการไหวตัวทัน และได้มีการชักปืนเพื่อที่จะยิงเปิดทางหนี โดยหญิงสาวที่เป็นสายตำรวจได้ร้องบอกว่าคนร้ายมีปืน และพยายามจะยิงมาทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นขณะเดียวกันกับที่คนร้ายกำลังจะขับรถหนีไป ส.ต.ต.ปณณธร จึงตัดสินใจยิงไล่หลังกลับไป โดยที่ไม่ทราบว่ากระสุนปริศนาดังกล่าวไปถูกผู้บาดเจ็บจนกระทั่งทราบข่าวว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนปริศนา จึงได้นำปืนกระบอกดังกล่าวมามอบให้ ผบก.น.3 พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งประเด็นนี้ยังเป็นข้อสงสัยอยู่ว่า จากคำให้การที่มือยิงกระสุน บอกเล่าว่า ในขณะเกิดเหตุเป็นเวลาค่ำ และอยู่ในชอยที่มืดเปลี่ยว เหตุใดจึงมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าคนร้ายพยายามที่จะยิงสวนกลับมาใส่เจ้าหน้าที่ พร้อมทั้ง คำให้การที่ยังขัดแย้งและไม่สามารถให้ความกระจ่างได้ถึงสาเหตุของการยิงปืนดังกล่าว อีกประเด็นหนึ่งคือ ระยะทางจากจุดที่มีการล่อซื้อไปถึงจุดที่กระสุนปืนปริศนาพุ่งทะลุกระจกจนเป็นให้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ห่างกันมากเพียงใด จึงทำให้ทางชุดปฏิบัติการล่อซื้อยาบ้าในครั้งนี้ไม่ทราบว่า กระสุนได้พลาดไปถูกผู้บาดเจ็บจนเป็นเหตุให้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นหมดสติ



อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น พล.ต.อ.พงศพัศ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดทั้ง5คนเข้ามาช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจนครบาล พร้อมให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดทันที และให้มีการสอบสวนอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา โดยไม่ให้ผู้ใดเสียประโยชน์  นอกจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมที่จะช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ของผู้เสียหายอย่างเต็มที่ จนกว่าจะสามารถหาที่มาที่ไปของกระสุนดังกล่าวได้



 



ผู้สื่อข่าว :พนิตา สืบสมุทร 

ข่าวทั้งหมด

X