*โฆษกสตช.เผย อ๊อด พยุงวงษ์ ยังอยู่ในภาคกลางเชื่อมีคนส่งเงินช่วยเหลือ*

08 ตุลาคม 2558, 14:29น.


ความคืบหน้ากรณีระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร พลตำรวจโทประวุฒิ ถาวรศิริ รักษาราชการแทนที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 และรักษาการแทนโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีการวางระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร ว่าเจ้าหน้าที่ได้ติดตามตัวนายอ๊อด พยุงวงษ์ อย่างต่อเนื่อง คาดว่า น่าจะยังซ่อนตัวอยู่ในภาคกลาง จากการตรวจสอบพบว่า นายอ๊อด ยังมีญาติและเพื่อนอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ส่วนข้อมูลพยานหลักฐาน ทางเจ้าหน้าที่ได้พบกับมารดาของนายอ๊อดจริง แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลเพิ่มเติมมากนัก เนื่องจากนายอ๊อดไม่ได้อยู่กับมารดานานแล้ว ขณะที่การตรวจสอบเส้นทางการเงิน คาดว่าน่าจะไม่มี เนื่องจาก นายอ๊อดเป็นบุคคลไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน จึงไม่สามารถที่จะเปิดบัญชีเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินได้ จึงเป็นไปได้ว่าอาจจะมีบุคคลที่สนับสนุนนำเงินมาให้



นายอ๊อดเพื่อจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ประกอบระเบิด ขณะที่การตรวจสอบใบหน้านายอ๊อดในข้อมูลไบโอเมทริกกับรูปภาพการ์ด แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ แต่โดยส่วนตัวแล้ว การจะแยกแยะภาพและยืนยันตัวบุคคลอาจจะเป็นไปได้ยาก



ขณะที่ การสรุปสำนวนคดีส่งฟ้องนายอาเดม คาราดัก และนายเมียไรลี ยูซุฟู คาดว่า หลังจากนี้ไม่เกินการฝากขังอีก 2 ผัด หรือประมาณ 24 วัน ก็น่าจะดำเนินการเสร็จสิ้น



ส่วนในวันนี้ เจ้าหน้าที่จะทำหนังสือไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อเชิญเจ้าหน้าที่จากสถานทูตตุรกี มาหารือแนวทางต่างๆทั้งการตรวจสอบหนังสือเดินทาง การยืนยันแหล่งที่อยู่ของนางสาววรรณา สวนสัน และนายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู รวมถึงการยืนยันการเดินทางเข้าออกประเทศของนายอาบูดูซาตาร์ อบูดูเระห์มาน หรืออิซานด้วยเช่นกัน ขณะที่การประสานไปยังประเทศจีนและประเทศอื่นๆ ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมา แสดงว่ายังไม่มีความคืบหน้าในการติดตามตัวผู้ต้องหา



ส่วนการที่ทนายเข้าไปพบนายอาเดม คาราดักในวันนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลยังเป็นปกติเหมือนเดิม ซึ่งที่มาของทนายคนดังกล่าว น่าจะผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยทุกอย่างน่าจะถูกต้อง และไม่มีปัญหาอะไร



ขณะที่การขอศาลอนุมัติหมายจับเพิ่มเติม ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่ามีบุคคลใดบ้างและอยู่ในประเทศไทยหรือไม่ เนื่องจากต้องรอการรวบรวมพยานหลักฐาน และข้อมูลเส้นทางการเงินที่ชัดเจนจากทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.ก่อนจึงจะสามารถดำเนินการได้



นอกจากนี้ กรณีที่มีชายลักษณะคล้ายแขกขาวสะพายเป้เข้าไปบริเวณศาลทหารนั้น ขณะนี้ ยังไม่พบตัว ซึ่งได้ประสานให้ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองช่วยตรวจสอบในเรื่องนี้แล้ว โดยชื่อของชายคนดังกล่าว ยังไม่สามารถยืนยันได้ รวมถึงพฤติกรรมก็ยังไม่พบพิรุธที่ชัดเจน โดยอาจจะเป็นเพียงนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่เข้ามาถ่ายภาพก็เป็นได้ ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลกำลังตรวจสอบอยู่เช่นกัน



อย่างไรก็ตาม สำหรับการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยในเทศกาลกินเจที่จะถึงนี้ ก็อาจจะต้องกำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง หรือในที่ที่มีนักท่องเที่ยวมากเพิ่มมากยิ่งขึ้น  รวมถึงการกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ช่วงก่อนและระหว่างเทศกาลด้วยเช่นกัน



ผู้สื่อข่าว:พนิตา สืบสมุทร



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X