*นายกฯ ไม่กำหนดกรอบระยะเวลาปรองดอง*

การเสนอแนวคิดหลักเกณฑ์การปรองดอง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดระยะเวลาในเรื่องนี้ แต่ในระยะแรกรัฐบาล ดำเนินการปฎิรูปมาแล้วทุกด้าน ทั้งการปฎิรูปในแต่ละกระทรวง ก็ได้ปรับทั้งหมดแล้ว และพอมาเพิ่มระยะเวลาการร่างรัฐธรรมนูญ ตามสูตร 6-4 6-4 รัฐบาลจึงต้องทำต่อไป ส่วนใครจะมาพูดว่าอยู่ในช่วงแกล้งตายไม่ได้ เพราะต้องตายจริง ส่วนตัวก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูด แต่การที่ตัวเองต้องเข้ามานี้ก็เข้ามาทำเพื่อประเทศ  ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่ห่วงคนที่แกล้งตายหรอก เพราะกฎหมายของประเทศมีอยู่ ซึ่งถ้าจบกระบวนการแล้วจึงจะค่อยมาว่ากัน ขณะที่ การสรรหาที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) นายกรัฐมนตรี มองว่า เรื่องดังกล่าวก็คงต้องให้กรธ. ดำเนินการ เพราะทุกคนที่จะเข้ามาก็มีคุณสมบัติ มีความเหมาะสม และเคยอยู่ในคณะกรรมการชุมเก่ามาก่อน ซึ่งก็สามารถนำเข้ามาผสมได้ อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานต้องเข้าใจถึงแม่ว่ารัฐธรรมนูญ จะเป็นกฎหมายของประเทศชาติ แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขทุกอย่างได้ถ้านักการเมือง ทุกคนไม่ช่วยกัน

ส่วนปัญหาหมอกควันจากประเทศอินโดนีเซีย ที่มีผลกระทบมาถึงภาคใต้ของไทย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของไทยทำได้เพียงแค่ฉีดน้ำเพื่อทำให้หมอกควันจางลง ส่วนการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ ทางการอินโดนีเซีย ก็ดำเนินการอยู่แล้ว เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากในประเทศอินโดนีเซีย ที่มีการถางป่า ส่วนการดูแลด้านสาธารณสุขของคนในพื้นที่ภาคใต้ของไทย ขณะนี้ สาธารณสุขจังหวัด ก็ลงไปดูแล้ว ทั้งการให้คำแนะนำการป้องกัน อาทิ ใส่ที่ปิดจมูก

ภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ในที่ประชุมได้ติดตามงานที่สั่งไปแล้ว ในด้านการขับเคลื่อนระยะที่ 1-2 เช่น การจัดหาพื้นที่ กำหนดสิทธิประโยชน์ที่ดิน ซึ่งก็มีความก้าวหน้าเป็นลำดับ ซึ่งก็ทำเพื่อให้เศรษฐกิจในแต่ละท้องถิ่นดีขึ้น ทั้งภาคการเกษตร และอุตสาหกรรม และทำให้ตรงกับความต้องการของตลาด

ขณะที่ ปัญหาหลักเรื่อง ดำเนินการขอคืนพื้นที่จากประชาชน ที่เป็นที่ดินราชพัสดุหรือที่ดินรัฐ รัฐบาลก็จะต้องช่วยผู้ที่บุกรุกให้สามารถทำกินได้ต่อโดยไม่เดือดร้อน ซึ่งการทำงานทุกอย่างก็จะต้องขับเคลื่อนไปพร้อมๆกันอย่างเท่าเทียม

ส่วนการลงพื้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่า ในส่วนตัวและคณะก็จะลงไปในทุกพื้นที่ ต้องพิจารณาว่าหากพร้อมเมื่อใดก็จะลงพื้นที่ ส่วนการลงไปพบกับคณะกรรมการร่วมภาครัฐจังหวัด หรือ กรอ.จังหวัด ก็จะต้องลงไปพบด้วยเช่นกัน เพราะต้องไปติดตามงบประมาณที่ลงไป เพื่อต้องการทำให้เกิดกับประโยชน์แก่ประชาชนในแต่ละพื้นที่ให้มากที่สุด

ผู้สื่อข่าว:วิรวินท์ ศรีโหมด