ความคืบหน้าการติดตามผู้ต้องหาในคดีระเบิดแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทรซึ่งมีการควบคุมตัวและจับกุมผู้ต้องหาได้หลายคน พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า กำลังมีการติดตามตัวนายอ๊อด พยุงวงศ์และผู้ต้องหารายอื่นๆ โดยในสัปดาห์หน้า จะประชุมร่วมกับพลตำรวจโทศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาการแทนผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และชุดสืบสวนสอบสวน ส่วนข้อมูลที่เจ้าหน้าที่มีอยู่ในขณะนี้ เป็นข้อมูลของนายอ๊อดเกี่ยวกับคดีเก่าๆที่ผ่านมา ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม จึงยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเชิญการ์ด ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม แต่หากพบว่ามีความเกี่ยวข้องก็จะต้องเชิญเข้ามาให้ข้อมูลอย่างแน่นอน ส่วนการติดตามตัวนายซูแบร์ อับดุลลาห์ ชายเสื้อฟ้า และผู้ต้องหาที่คาดว่าหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านนั้น ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบให้มีความชัดเจนว่าหลบหนีออกจากประเทศไทยแล้วจริงหรือไม่ ซึ่งพลตำรวจโทสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รักษาการแทนผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังไม่ได้รายงานความคืบหน้าเพิ่มเติม แต่ยืนยันว่ากำลังดำเนินการติดตามด้วยวิธีพิเศษ ขณะที่การส่งสำนวนคดีฟ้องผู้ต้องหา จะต้องรอการประชุมสรุปในสัปดาห์หน้า แต่ในขณะนี้ เชื่อว่าหลักฐานที่มีอยู่จะสามารถดำเนินคดีกับนายอาเดม คาราดัก และนายเมียไรลี ยูซุฟูได้
ส่วนการบริหารจัดการเงินรางวัลนำจับที่มีผู้มาบริจาคเพิ่มเติมสำหรับการดำเนินคดีกว่า 10 ล้านบาท อยู่ในช่วงที่คณะกรรมการพิจารณาว่าจะส่งมอบหรือบริหารอย่างไรและให้หน่วยงานใดบ้าง โดยยืนยันว่าจะดำเนินการให้อย่างทั่วถึงไม่ตัดสิทธ์ใคร
ด้านการขอศาลอนุมัติหมายจับเพิ่มเติม เป็นการออกหมายจับตามคำให้การผู้ต้องหาที่จับได้ก่อนหน้านี้ และคาดว่าจะมีการออกเพิ่มเติมในเร็วๆนี
ทั้งนี้ สำหรับการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่โอนเข้ามาในประเทศที่คาดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ยังไม่สามารถระบุกลุ่มได้ชัดเจน รวมทั้งวัตถุประสงค์ของการโอน ก็ยังไม่สามารถระบุได้เช่นกัน
สำหรับกรณีที่มีชายลักษณะคล้ายแขกขาวสะพายเป้เข้าไปที่ศาลทหารนั้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็คาดว่าน่าจะทราบชื่อแล้ว
โดยพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ยังบอกด้วยว่า ในขณะนี้ การสืบสวนสอบสวนทั้งหมดเดินหน้ามากว่าร้อยละ 90 แล้ว แต่จะสรุปสำนวนคดีทั้งหมดได้ในสัปดาห์หน้าหรือไม่นั้น ก็ต้องรอการประชุมอีกครั้ง
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังเปิดเผยถึงกรณีของกระแสการต่อต้านการใช้ระบบ single gateway ว่า ในส่วนนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ไม่ได้สั่งการลงมาเป็นพิเศษ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเพียงกระแสทั้งด้านดีและไม่ดี เป็นเรื่องของความคิดเท่านั้น อีกทั้งก็ยังไม่ได้สรุปว่าจะนำมาใช้ โดนส่วนตัวก็คิดว่าการนำระบบนี้มาใช้ก็มองว่าเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากจะได้นำมาควบคุมหรือนำมาใช้ในด้านการรักษาความมั่นคงได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่นก็ต้องดูอีกที
ส่วนบุคคลที่เข้ามาถล่มเว็บไซต์ของทางราชการก็กำลังตรวจสอบอยู่ ซึ่งหากมีความผิดจริง ก็ต้องดำเนินการตาม พรบ.คอมพิวเตอร์อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ได้เปิดเผยถึงการจัดซื้ออาวุธปืนซิกซาวเออร์ รุ่นพี320 ให้กับข้าราชการตำรวจที่มีข้อวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับสัญญาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่อาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรมว่า การจัดซื้อปืนดังกล่าว เป็นการจัดซื้อโดยตรงกับบริษัทปืน ซึ่งจากการตรวจสอบก็อยู่ในราคาที่เหมาะสมแล้ว ส่วนสัญญาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายมองว่าอาจจะเสียประโยชน์นั้น ก็จะนำไปพิจารณา และหากมีส่วนใดที่บกพร่องก็จะทำการแก้ไขต่อไป
...ผสข.พนิตา สืบสมุทร