หลังจากมีการเลือกนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญหรือ กรธ. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรธ. ดูแลเรื่องการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ แก้กฎหมายต่างๆ ที่เคยมีปัญหา ที่ต้องยอมรับว่า ในอดีตกฎหมายไม่เข้มแข็ง ทั้งกฎหมายอาญาและกฎหมายแพ่ง มีการละเมิดกันอยู่ตลอดเวลา ส่วนตัว ไม่รู้ว่ารัฐบาลใหม่ที่เข้ามาจะแก้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้อีกหรือไม่ แต่ก็ไม่เป็นห่วงรัฐบาลใหม่เพราะประชาชนจะต้องเป็นผู้เลือกรัฐบาลเข้ามา แต่ห่วงประเทศชาติมากกว่าว่าจะอยู่ได้หรือไม่ ส่วนกรณีที่พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม บอกว่าจะมีการนำประเด็นเรื่องคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ ใส่ไว้ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า ไม่ทราบ ต้องถามกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ โดยเรื่องนี้เป็นเพียงข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญชุดเก่า
ขณะที่การตั้งสภาขับเคลื่อนประเทศ 200 คน ซึ่งมีการให้ผู้ที่เคยโหวตไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับเก่าเข้ามาเป็นสภาขับเคลื่อนประเทศนั้น ขอให้เข้าใจว่าบุคคลเหล่านี้เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ สามารถสานต่อการขับเคลื่อนประเทศได้ โดยการนำบุคคลเหล่านี้รวมถึงคนในพรรคการเมืองต่างๆ เข้ามา จะเป็นการสร้างความสมดุลกัน
นายกรัฐมนตรี ก็ได้บอกกับสื่อว่า ตัวเองไม่อยู่ในประเทศไทยหลายวัน ก็คิดถึงผู้สื่อข่าว ไม่มีใครต่อล้อต่อเถียงด้วย โดยยอมรับว่าการให้สัมภาษณ์ในวันนี้ตัวเองใจเย็นที่สุดแล้ว สำหรับกรณีที่สำนักข่าวบีบีซี ประจำประเทศไทย นำเสนอข่าวว่านายกรัฐมนตรีเข้าไปขอจับมือนายบารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ในการประชุมสุดยอดเกี่ยวกับกองกำลังรักษาสันติภาพในกรอบของสหประชาชาติ ที่สหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพนั้น ขอให้สื่อถามตัวเอง เพราะตัวเองรู้ดีกว่าใคร ซึ่งในวันนั้นนายโอบาม่าเดินมาขอจับมือตัวเอง โดยขอให้สื่อนำเสนอข้อมูลที่เป็นจริง อย่าอ้างถึงสิทธิเสรีภาพมากจนเกินขอบเขต สำหรับสื่อที่นำเสนอว่าตัวเองลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ขอถามว่าตอนนี้ได้มีการจับผู้สื่อข่าวไปขังหรือไม่ ที่ทำก็แค่การเรียกเข้ามาพูดคุย ทำความเข้าใจกันเท่านั้น
ส่วนในการประชุมสุดยอดเกี่ยวกับกองกำลังรักษาสันติภาพในกรอบของสหประชาชาติก็ได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของประเทศตุรกี ในเรื่องเหตุการณ์ระเบิดและการส่งกลับชาวอุยกูร์กลับประเทศ ได้ชี้แจงถึงการส่งตัวชาวอุยกูร์ว่าไทยได้มีการพิสูจน์สัญชาติ และขั้นตอนก็เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งกรณีดังกล่าวชาวอุยกูร์เดินทางมาอย่างผิดกฎหมาย ไม่ได้มีการขอลี้ภัย จึงต้องดำเนินการไปเช่นนั้น โดยในอนาคตจะต้องมีการหารือเรื่องการกำหนดกำหมาย เพื่อป้องกันการลักลอบใช้เส้นทางเข้า ออก ประเทศอย่างผิดกฎหมาย
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีก็ได้เปิดเผยถึงการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในการยึดทรัพย์คดีจำนำข้าว รัฐบาลไม่สามารถใช้อำนาจมาตรา 44 ในการยึดทรัพย์การจำนำข้าวได้ หากกระทำผิดจริง จะให้ดำเนินการตามกระบวนการกฎหมาย