*ผู้ว่าฯกทม.มั่นใจหากอุโมงค์ยักษ์บางซื่อ สร้างเสร็จปี2559 ช่วยแก้น้ำท่วมขังถ.รัชดาฯเร็วขึ้น*

05 ตุลาคม 2558, 17:03น.


การติดตามลงพื้นที่เพื่อตรวจดูจุดอ่อนที่ทำให้มีน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพมหานคร(กทม.)จุดแรกที่คณะของหม่อมราชวงศ์ สุขุมพันธุ์ บริพัฒน์ ผู้ว่าฯ กทม. มาตรวจดูบริเวณถนนรัชดาภิเษก ช่วงหน้าศาลอาญา บริเวณคอสะพานข้ามแยกลาดพร้าว ตรงจุดสูบน้ำชั่วคราวลงคลองบางแก้ว  ผู้ว่าฯกทม.ได้ใช้เวลาตรวจ และรับฟังรายงานการดำเนินการในจุดแรกประมาณ 20นาที และเปิดเผยว่า จากปริมาณฝนที่ตกมาทุกปีจะหนักสุดในช่วงเดือนตุลาคม โดยปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 200มิลลิเมตร แต่ในปีนี้จากปริมาณน้ำฝนที่ตกมาแล้วขณะนี้ปริมาณน้ำอยู่ที่ 150-160มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าปริมาณน้ำฝนในปีนี้มีมากกว่าปกติ  แต่การระบายน้ำ ถึงฝนจะตกลงมาหนักแต่ กทม.ก็สามารถระบายน้ำได้ภายใน 1-2ชั่วโมงซึ่งถือว่าเร็วกว่าการระบายน้ำเมื่ออดีต



ส่วนจุดที่มีน้ำท่วมหนักสุดช่วงที่ผ่านมา คือ ที่ถนนรัชดาภิเษก ช่วงหน้าศาลอาญา และถนนงามวงศ์วาน หน้าซอยชินเขต1 ที่ไม่สามารถระบายได้ทัน ในการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ที่ถนนรัชดาภิเษก มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 4เครื่องแล้ว ซึ่งหากฝนตกหนักก็จะเพิ่มรถสูบน้ำชั่วคราวเข้ามาช่วยอีก 2เครื่อง รวมเป็น 6เครื่องเพื่อช่วยระบายน้ำ ซึ่งจากอดีต 4ปี ที่จะต้องใช้เวลาระบายน้ำจนกว่าจะลดระดับถึง 6ชั่วโมง แต่ในปีนี้สามารถใช้เวลาระบายน้ำเพียง 3ชั่วโมง



ส่วนแผนการแก้ปัญหาระยะยาวก็จะต้องรอการสร้างอุโมงค์ระบายน้ำบางซื่อให้แล้วเสร็จ ซึ่งจะผันน้ำลงคลองลาดพร้าว ก่อนผันลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาโดยตรง โดยอุโมงค์บางซื่อนี้จะมีขนาดเท่าอุโมงค์พระราม9 จะก่อสร้างเสร็จในปี 2559 นอกจากนี้ ต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในคลองออกไปควบคู่กัน เพื่อทำให้การระบายน้ำเวลาฝนตกบนถนนรัชดาภิเษกระบายได้รวดเร็วในอนาคต



ส่วนในจุดถนนงามวงศ์วาน ช่วงตลาดพงษ์เพชร การแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน หากเปรียบเทียบกับการสูบน้ำเมื่ออดีต ซึ่งหากมีฝนตกต้องใช้เวลาถึง 8ชั่วโมงในการระบาย แต่ขณะนี้ใช้เวลาเหลือเพียง 4ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเร็วกว่าเมื่อก่อน ส่วนการวางแผนแก้ไขระยะยาว ก็จะต้องมีการสร้างอุโมงค์ระบายน้ำยักษ์ในจุดนี้เช่นกัน เพื่อที่จะผันน้ำให้ลงคลองเปรมประชากร ก่อนปันลงเจ้าพระยา แต่ถึงอย่างไรในจุดนี้ก็ยังเป็นแผนซึ่งยังไม่สามารถเริ่มดำเนินการได้ในขณะนี้



อย่างไรก็ตามการทำงานในการเร่งระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่กทม. เจ้าหน้าที่ทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่ พยายามจะเร่งระบายให้ได้เร็วที่สุด ขอให้ชาวกทม. เข้าใจด้วยว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้



ทั้งนี้ในจุดที่ 2 ที่ผู้ว่าฯกทม. มาติดตามคือ จุดตรงถนนงามวงศ์วาน ปากซอยชินเขต1 ก่อนถึงปั๊มน้ํามันคาลเท็กซ์ ซึ่งเป็นจุดที่สัปดาห์ที่แล้ว มีระดับน้ำท่วมขังสูงเช่นกัน โดยในจุดนี้ ผู้ว่าฯกทม.ใช้เวลาในการรับฟังบรรยายประมาณ 10นาทีก่อนเดินทางกลับ ส่วนสภาพการจราจร ทั้ง 2จุดที่คณะของผู้ว่าฯ กทม.ลงตรวจ ภายหลังการดูงานก็เปิดการจราจรช่องทางซ้ายตามปกติ



 



ผู้สื่อข่าว:วิรวินท์ ศรีโหมด



 



 

ข่าวทั้งหมด

X