ที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อแต่งตั้งกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ใช้ระยะเวลาในการประชุมประมาน 1 ชั่วโมง 30 นาที และมีมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบให้นายมีชัย ฤชุพันธ์ุ เป็นประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ โดยรายชื่อของ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุดใหม่ประกอบไปด้วย
นางกีระณา สุมาวงศ์ อดีต สนช.
นางจุรี วิจิตรวาทการ นักวิชาการNIDA
นายชาติชาย ณ เชียงไหม่ อ.รัฐศาสตร์ มช.
นายธนาวัฒน์ สังข์ทอง กรรมการร่าง กม.ประจำกฤษฏีกา
นายธิติพันธุ์ เชื้อบุญชัย อดีต คณบดี นิติศาสตร์ จุฬาฯ
นายเทียรชัย ณ นคร อ. ม.สุโททัยธรรมธิราช
นายนรชิต สิงหเสนี อดีตปลัดกระทรวงต่าง
พล.อ.นิวัติ ศรีเพ็ญ อดีตเจ้ากรมพระธรรมนูญ กห.
นายปกรณ์ นิลประพันธ์ กรรมการร่างกฏหมาย ประจำสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นายประพันธ์ นัยโกวิท อดีต กกต.
นายภัทร คำพิทักษ์ สื่อสารมวลชน
นาย ภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์ อดีตสำนักข่าวกรองฯ
พล.ต.วิระ โรจนวาศ
นายศุภชัย ยาวะประภาส อ.คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
นายสุพจน์ ไขมุกด์ อดีตตุลาการศาลรัฐธรนมนูญ
นายอมร วาณิชวิวัฒน์
นายอภิชาติ สุขัคคานนท์ อดีต ปธ.กกต.
นายอุดม รัฐอมฤต รองอธิการบดี มธ.
นายอัชพร จารุจินดา กรรมการกฤษฎีกาและอดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พล.อ.อัฏฐพร เจริญพาณิช อดีต เจ้ากรมพระธรรมนูญ กห.
ทั้งนี้ หัวหน้าคสช. ลงนามคำสั่งเพื่อให้พร้อมทำงานได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ส่วน สปท. ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีลงนามประกาศแต่งตั้งครบ 200 คนเรียบร้อยแล้ว โดยเลือกจากอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศ (สปช.) 61 คน ซึ่งมีทั้งมีทั้งผู้ที่ลงมติเห็นชอบและไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญร่างของคณะกรรมาธิการ สปช. ข้าราชการขั้นผู้ใหญ่เกษียณอายุราชการแล้ว 25 คน ข้าราชการยังไม่เกษียณ 23 คน ตำรวจทหาร 49 คน นักวิชาการ 13 คน นักการเมืองกลุ่มมวลชน 10 คน นอกจากนั้นเป็นผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาต่าง ๆ 19 คน
จากนั้น นายมีชัย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ต.ค.นายกรัฐมนตรีได้เชิญมาพบและชวนมาทำงาน จึงได้ถามว่ามีความจำเป็นขนาดไหนที่ให้มาทำหน้าที่ นายกรัฐมนตรีตอบว่ามีความจำเป็นที่ไม่อาจเลี่ยงได้ ดังนั้นตนเองในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่งจึงไม่อาจเห็นแก่ความสุขส่วนตนและไม่สามารถปฏิเสธได้ ทั้งนี้ทราบว่าการร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่ง่ายและมีอุปสรรคไม่น้อย แต่เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้ จึงตั้งใจจะทำงานให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
นายมีชัยกล่าวอีกว่า การร่างรัฐธรรมนูญไม่มีใครที่สามารถเขียนได้ตามที่ต้องการ เพราะเป็นการร่างเพื่อไปใช้กับคนทั้งประเทศ จึงต้องมีกรอบในการร่าง ซึ่งสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ คือกรอบที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 ม. 35 และ กรอบของ คสช. ซึ่งสรุปได้ 5 สิ่ง คือ ร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นที่ยอมรับสากล และขณะเดียวกันต้องสอดคล้องกับวิถีของคนไทย ต้องให้มีกลไกที่มีประสิทภาพในการปฏิรูปสร้างความปรองดอง ให้มีมาตรการป้องกันไม่ให้การเมืองใช้อำนาจแสวงหาผลประโยชน์ มีแนวทางตัดการทุจริต ต้องสร้างกลไกที่มีประสิทธิภาพให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชนที่ปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ส่วนจะให้รัฐธรรมนูญเป็นกรอบหรือร่างใหม่นั้นทางคณะทำงานต้องไปปรึกษาก่อน ซึ่งกรธ.ทุกคนต้องระดมความคิดเห็นและหาหนทางรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ส่วน คณะกรรมการยุทธศาสตร์ปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) จะมีในรัฐธรรมนูญหรือไม่ต้องมีการคุยกันก่อน
ซึ่งขณะนี้แนวคิดประชาชนเปลี่ยนไปและช่องทางการสื่อสารพัฒนาไปมากจึ้น ดังนั้นการที่จะร่างให้ถูกใจคนทุกคนคงยาก จึงต้องทำอย่างไรให้ประเทศเดินไปได้และรับทุกฝ่าย ซึ่งตนเองเป็นคนรุ่นเก่าที่ทันสมัย พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย
นอกจากนี้คิดว่าต้องมีการทำประชามติ เพื่อให้ประขาชนได้รับรู้ เพราะจะต้องปฏบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งการประขามติต้องใช้คะแนนของคนมาออกเสียง หากไม่มาออกเสียงต้องถือว่าสละสิทธิ์
นายมีชัย ยังกล่าวอีกว่า คสช.และรัฐบาลคัดเลือกรายชื่อ กรธ.และให้ตนเองคัดเลือก ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อบางคนแต่ไม่สามารถบอกได้ว่าใคร
ซึ่งในวันพรุ่งนี้ กรธ.จะเรียกประชุมในเวลา 13.30 น.ที่ห้องพิจารณางบประมาน ตึกรัฐสภาอาคาร 3 โดยมีการประชุมทุกวัน
อย่างไรก็ตามในที่ประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ได้เน้นย้ำกรอบระยะเวลาให้เป็นไปตามโรดเมพ และขอให้กระชับ ซึ่งนายมีชัยระบุว่า สามารถร่าวรัญธรรมนูญให้เป็นไปตามระยะเวบาที่กำหนดแน่นอน
...ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี