รรท.ผบช.นแถลงผลจับกุมวัยรุ่นปล้นแท็กซี่/ปลอมหนังสือเดินทาง/ค้าอาวุธ/ยาเสพติด

การจับกุมคดีสำคัญในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 4 คดี พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รักษาการผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมแถลงข่าว

โดยคดีแรกเป็นการจับกุมแก๊งปล้นแท๊กซี่ โดยสน.ประเวศ
จับกุมกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุร่วมกันปล้นทรัพย์ คือ นายตะวัน หรือ บาส บุญด้วง และนายกฤษดา หรือ โต๊ด เรืองศรี พร้อมเยาวชนชายอายุ 17 ปีอีก 2 คน พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ 2 คัน หลวงปู่ทวด 1 องค์ พระกริ่ง 1 องค์ และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ซึ่งหลังเมื่อช่วง 1 นาฬิกา 40 นาที วันที่ 1 ตุลาคม ทั้งหมดร่วมกันปล้นทรัพย์รถแท็กซี่คันหนึ่ง บริเวณปากซอยพัฒนาการ 64 ย่านประเวศ ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่าทำมาแล้วหลายครั้ง และยังเคยก่อเหตุรุมโทรมหญิงสาวด้วย เจ้าหน้าที่จึงนำผู้เสียหายมาชี้ตัวผู้ต้องหาในครั้งนี้ด้วย


ด้านตำรวจนครบาล 9 แถลงข่าว จับกุมนายวิเชียร บุญสร้าง และนาย สงบ บางตำรวจ หรือ หมู ผู้ต้องหาร่วมกันปลอมแปลงหนังสทอเดินทางของต่างประเทศ โดยประสานกับเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจที่บ้านนาย วิเชียร และพบหนังสือเดินทางปลอมของประเทศ โปรตุเกต อิตาลี มอลตา รวมกว่า 10 ประเทศ ทั้งที่เข้าเล่มแล้วและยังไม่เข้าเล่ม รวมกว่า 1,000 เล่ม พร้อมอุปกรณ์จัดทำพาสปอร์ตปลอม โดยนายวิเชียรรับสารภาพว่าร่วมมือกับนายหมูในการทำพาสปอร์ตปลอม โดยนายหมูจะได้ค่าจ้าง 2 หมื่นบาท ส่วนนายวิเชียรได้ 150 บาทต่อเล่ม โดยมีชายต่างชาติเป็นผู้ว่าจ้าง และหารายละเอียดของหนังสือเดินทางมาให้ ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้เนื่องจากอยู่ระหว่างสืบสวนจับกุม และอยู่ระหว่างประสานสถานทูตมาตรวจสอบหนังสือเดินทางก่อนส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานรับไปดำเนินการต่อไป

ด้านกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 สน.สุทธิสาร ร่วมกันจับนายชูศักดิ์ นุพันธุ์ อายุ 33 ปี พร้อมของกลาง14รายการ เช่น อาวุธปืนสงครามยาว (อาก้า) แบบพับฐาน ak47 จำนวน 1กระบอก เครื่องกระสุน ak47 จำนวน 75นัด กล้องเล็งทางไกล 2ตัว กระบอกเก็บเสียง 1 อัน อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 38นัด และอื่นๆ สามารถจับกุมได้ที่ ลานจอดรถ B.M.แมนชั่น อินทามระ 47 ดินแดง ในคดีนี้สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาท จึงไปตรวจสอบพบ นายชูศักดิ์ ลักษณะท่าทางมีพิรุธน่าสงสัย โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า อาวุธปืนดังกล่าวได้แลกอาวุธปืนมาทางอินเตอร์เนตและจะนำอาวุธปืนไปยิงชายที่เป็นชู้กับเมียตนเอง จึงได้จับกุม พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนต่อไป เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา มีหรือใช้อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน ที่ใช้เฉพาะแต่การสงครามที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม้ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทาง สาธารณะ โดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุอันควร

ส่วนกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 จับกุมนายชาคร แซ่ลี้ อายุ 19 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ และได้ติดตามพฤติกรรมมาโดยตลอดจน สามารถจับกุมได้ในวันที่ 3 ต.ค. ที่ ห้องพักเลขที่ 412 ชั้นที่ 4 วันเดอร์ฟูลไลฟ์ อพาร์ทเมนท์ ซ.พหลโยธิน 35 เขตจตุจักร พร้อมของกลางเป็นยสเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 356,000 เม็ด และโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง แก๊งนี้เบี่ยงทางภาคอีสาน ซึ่งในคดีนี้ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา