*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น. *
++++ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย เดินทางกลับบ้านแล้วเมื่อคืนนี้ โดยมีกลุ่มคนไทย ให้การต้อนรับ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ด้าน เว็บไซต์วอยซ์ ออฟ อเมริกา ภาษาไทย (voathai) เปิดเผยบทสัมภาษณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในระหว่างเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติระดับผู้นำเพื่อรับรองวาระการพัฒนาภายหลัง ปี ค.ศ. 2015 และการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 70 ถึงความสัมพันธ์ของไทย-สหรัฐฯ ว่า วันนี้นโยบายด้านการต่างประเทศเกี่ยวกับการค้าการลงทุนไทยไม่ได้เลือกใคร เพราะโลกนี้มีการแข่งขันอย่างเสรี ซึ่งประเทศไทยต้องได้รับประโยชน์จากตรงนี้อย่างเท่าเทียม แต่เราก็ไม่สามารถคิดถึงแต่ตัวเอง รัฐบาลจึงได้มีนโยบายรวมกลุ่มกับอีก 10 ประเทศอาเซียนเพื่อหารือในการวางกรอบเศรษฐกิจ
+++ส่วนจุดยืนของไทยต่อประเทศมหาอำนาจระหว่างสหรัฐฯ กับจีนว่า วันนี้สหรัฐฯ มีความเข้มแข็งเรื่องการค้าขายทางทะเล ขณะที่ประเทศจีนก็มีความพยายามเพิ่มเส้นทางการค้าทะเลมากขึ้นเพื่อหาตลาดใหม่ สร้างเส้นทางการค้าการขนส่ง ไทยในฐานะที่อยู่ตรงกลางจะต้องได้ประโยชน์จากทุกประเทศเหล่านี้ และจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งระหว่างกัน ไทยต้องไม่เทไปข้างใดข้างหนึ่ง สำหรับประเด็นด้านปัญหาการค้ามนุษย์ซึ่งประเทศไทยยังคงถูกจัดอยู่ในกลุ่มเทียร์ 3 ในรายงานประจำปีเรื่องการค้ามนุษย์ของกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐฯ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในฐานะผู้นำรัฐบาลก็ต้องยอมรับในความผิดพลาดของเราที่ทำให้เรื่องเหล่านี้ไม่ได้รับการแก้ไขเป็นเวลานาน เรื่องเหล่านี้ทางสหรัฐฯ ได้แจงเตือนมาหลายปีแล้ว แต่ การแก้ไขปัญหาจะต้องมีผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งแรงงานประมง เรือประมง แรงงานข้ามชาติ ซึ่งรัฐบาลแก้ไขทั้งหมด และการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์จึงต้องใช้เวลา
+++กลับมาแล้วงานรออยู่ วันนี้ ต้องติดตาม นายกรัฐมนตรี เตรียมประชุมเพื่อคัดเลือกบุคคลทำหน้าที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 21 คน และสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ 200 คน ก่อนหน้านี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะเรียกประชุม คสช.วันที่ 2 ต.ค. เพื่อพิจารณาบุคคลที่จะมาเป็นคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จำนวน 21 คน และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) จำนวน 200 คน ว่า อาจจริงก็ได้ ยังไม่กล้าปฏิเสธ อาจมีคนให้ข่าวสื่อ โดยรายชื่อทั้งหมดทั้งของ กรธ.และ สปท.อยู่ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะรองหัวหน้า คสช.แล้ว แต่จำนวนมากกว่าที่ควรจะต้องเลือก และถ้า พล.อ.ประยุทธ์จะเรียกประชุม คสช. สามารถทำได้ หรือ พล.อ.ประยุทธ์อาจทำเองก็ได้ และแน่นอนว่าเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์กลับมา ต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งต้องเผื่อเวลาในการติดต่อยืนยันและการพิมพ์รายชื่อ เพราะทั้ง กรธ.และ สปท.ไม่ต้องนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย สามารถประกาศได้เลยในราชกิจจานุเบกษา ดังนั้นใช้เวลา 1-2 วันก็สามารถทำได้ และภายในวันที่ 5 ต.ค.ก็ยังสามารถทำ
++++ส่วนนายมีชัย ฤชุพันธ์ จะรับตำแหน่งประธานกรธ. หรือไม่ นั้น ยังไม่ได้รับคำตอบ โดยบอกว่าขอหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งนายกฯ ก็มีเรื่องต้องหารือกับนายมีชัย
+++พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงกรณีที่มีรายชื่อตนปรากฏเป็นข่าวว่าเป็น กรธ. ว่าขณะนี้ยังไม่มีใครมาพูดทาบทามและบอกว่าตนจะได้เป็นสมาชิก กรธ. เห็นว่าสิ่งที่ต้องแก้ไขในร่างรัฐธรรมนูญฉบับของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นเรื่องของโครงสร้างทางการเมือง อาทิ ที่มานายกฯ ส.ว. รูปแบบการเลือกตั้ง และเรื่องคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) ซึ่งเป็นปัญหาอยู่ก่อนหน้านี้
+++ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า คนที่มาเป็นประธาน กรธ. จะมีทัศนะที่เปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นประชาชน หรือกล้าเห็นต่างจากคสช.หรือไม่คือสิ่งสำคัญ ส่วนตัวมองว่านายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชนมากกว่า เนื่องจากมีประสบการณ์ในการร่างรัฐธรรมนูญปี 2540 ซึ่งถ้าได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธาน กรธ. สามารถนำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาแก้ไขปรับปรุงประเด็นการตรวจสอบที่เป็นจุดอ่อนของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้
++++ส่วนเวลา 13.30 น. นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล อดีตประธานศาลปกครองสูงสุด ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) ซึ่งมีมติลงโทษให้ตนเองออกจากราชการโดยมิชอบ
+++หลังเว็บไซต์กระทรวงไอซีที และเว็บไซต์ราชการหลายแห่ง โดนกลุ่มต้านนโยบายซิงเกิล เกตเวย์ ได้ระดม แสดงการคัดค้านเชิงสัญลักษณ์ ส่งผลให้ความเร็วการใช้งานเว็บไซต์ลดลง จนเรียกเปิดดูหน้าเว็บไซต์ไม่ได้ นายศุภชัย เจียรวนนท์ นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า จุดยืนของสมาคมฯ กรณีการจัดตั้งซิงเกิล เกตเวย์ที่ละเมิดสิทธิการเป็นส่วนตัวของ ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต ทางสมาคมฯ ไม่เห็นด้วย แนะนำให้ ใช้รูปแบบอย่างประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ที่มีการรักษาความเป็นส่วนตัวของ ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต ที่ทำให้เกิดการสมดุลกัน
+++ด้านนายปริญญา หอมเอนก ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เห็นว่า ประเทศไทยควรมีองค์กรกลางที่ทำหน้าที่ดูกฎหมายด้านอินเทอร์เน็ต หรือคอมพิวเตอร์ เหมือนอย่างในสหรัฐที่มีองค์กร อย่าง เอ็นเอสเอ และควรปรับกฎหมายที่มีในปัจจุบัน ซึ่งไม่ได้ครอบคลุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตในยุคนี้ให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน ซึ่งพร้อมที่จะเข้าไปให้ข้อมูล และแนะแนวกับภาครัฐในเรื่องนี้ตัวอย่างในต่างประเทศ มีวิธีการในควบคุม เช่น มีเครื่องมือไปติดตั้งกับระบบของ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) ทุกราย ซึ่งรัฐสามารถขอดูข้อมูลที่ผิดปกติเป็นรายกรณีไปแต่ทั้งนี้ สิ่งสำคัญ คือ การออกกฎหมายที่มารองรับ ในเรื่องดังกล่าวด้วย ไม่ให้รัฐไปขอดูได้ง่ายๆ แต่ต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ มากมาย
++++นายอุตตม สาวนายน รมว.ไอซีที ยืนยันว่า จะไม่ทำในลักษณะทำให้ข้อมูลที่เข้ามาจากต่างประเทศต้องผ่านท่อเดียวเพื่อให้รัฐตรวจสอบแน่นอน เพราะการทำเช่นนั้นเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพ รัฐบาลไม่มีนโยบายแบบนั้น ซึ่งโครงการที่นายกฯ สั่งการมา ก็ยังคงต้องเดินหน้าต่อไป แต่ขอเวลาศึกษารายละเอียดให้ชัดเจนเสียก่อน จึงขอความร่วมมือให้เลิกใช้ คำว่า ซิงเกิลเกตเวย์"
+++นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ปฏิเสธจะแสดงความเห็น โดยระบุว่า ต้องไปถาม พล.อ.อ.ประจิน แต่เท่าที่ทราบไม่ได้ต้องการเข้าไปควบคุมกำกับอะไรอย่างนั้น แค่พยายามเน้นทำให้ข้อมูลสามารถเชื่อมต่อกันได้ในเรื่องของธุรกิจ เศรษฐกิจ และสังคม เป็นต้น ไม่น่าจะมีอะไรหรอก ไม่ได้กำกับพูดมากไม่ดี
++++พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันว่ายังไม่มีโครงการดังกล่าว เป็นเพียงคำปรารภของนายกฯ เท่านั้น ยังไม่ได้เป็นมติ ครม. รัฐบาลเข้ามาในช่วงที่ปัญหาบ้านเมืองมากมาย จะไปหาเรื่องแกว่งเท้าหาเสี้ยนให้มีปัญหาเพิ่มขึ้นมาได้อย่างไร เป็นไปไม่ได้เลย พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ รักษาราชการแทนโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ยืนยันว่าตำรวจสามารถตรวจสอบย้อนกลับไปที่ผู้ก่อกวนได้ และรู้ตัวผู้กระทำผิดแล้ว จึงฝากเตือนให้หยุดพฤติกรรมลักษณะดังกล่าว เพราะเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์
++++“โนเล” โนวัก ยอโควิช นักเทนนิสมือ 1 โลกคนปัจจุบันจาก เซอร์เบีย และราฟาเอล นาดาล แชมป์แกรนด์สแลม 14 สมัย ชาวสเปน สองซูเปอร์สตาร์นักเทนนิสชื่อก้องโลก เดินทางถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ต.ค. ก่อนเตรียมตัวลงเล่นแมตช์ประวัติศาสตร์ รายการ “แบ็ก ทู ไทยแลนด์ นาดาล - ยอโควิช พรีเซนต์ บาย ซีพี ทรู” ในวันที่ 2 ต.ค.นี้ ที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก เริ่มเวลา 19.00 น. โดยยอโควิชได้กล่าวขอบคุณแฟนเทนนิสชาวไทยทุกคนที่มาต้อนรับมากมายขนาดนี้ตั้งแต่สนามบินและที่โรงแรม รู้สึกมีความสุขมากทุกครั้งที่ได้มาประเทศไทย ส่วนแมตช์พิเศษกับนาดาล ตนจะเล่นให้เต็มที่และให้แฟนเทนนิสทุกคนพกรอยยิ้มกลับบ้านให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ ยอโควิชได้บอกเคล็ดลับที่จะทำให้นักหวดไทยก้าวไปสู่ระดับโลกนั้น เด็กๆ ต้องเข้าใจก่อนว่า เราตื่นมาทุกเช้าเพื่อมาซ้อมทำไม และต้องมีความสุขกับสิ่งที่ทำ
+++ส่วน "นาดาล" กล่าวในงานแถลงว่า ตนเองมาประเทศไทยครั้งที่แล้วเป็นความสุขที่ยากจะลืมเลือน และอยากจะกลับมาที่นี่เสมอ หวังว่าทุกคนจะได้ดูแมตช์ที่ตนแข่งกับยอโควิชอย่างมีความสุข ส่วนตัวเชื่อว่าในอนาคตจะมีนักเทนนิสไทยที่เป็นนักเทนนิสระดับโลกได้อีกแน่นอน โดยในเวลา 11.00 น. สองนักเทนนิส จะเข้าพบนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล