*สตช.จะอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองเชียงใหม่ หลังถูกตัดสินให้จ่ายค่าเสียหาย97ลบ.คดีสร้างโรงพักทดแทน*

หลังศาลปกครองเชียงใหม่ ตัดสินให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องชดใช้ค่าเสียหาย 97 ล้านบาท แก่บริษัทพีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ คอนสตรัคชั่น ที่รับเหมาก่อสร้างในโครงการสร้างที่ทำการทดแทนสถานีตำรวจ 396 แห่ง พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ รักษาราชการแทนโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คดีนี้ทางงบริษัท พีซีซี ฟ้องว่าการยกเลิกสัญญาของสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ศาลปกครองได้มีคำพิพากษาว่าการยกเลิกสัญญานั้นชอบแล้ว โดยทางบริษัทได้ฟ้องทั้งหมด 7 ข้อ ตอนนี้ศาลสั่งให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คืนเงินให้บริษัทฯเป็นเงิน 96 ล้านบาท พร้อมคืนหน้งสือค้ำประกันงาน  292,400,000 บาท อย่างไรก็ตามยังมีบางประเด็นที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะต้องดำเนินการขออุทธรณ์ต่อศาลปกครองต่อไป โดยตอนนี้ยังไม่ถือว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แพ้คดีเพราะศาลได้พิพากษาว่าการยกเลิกสัญญาของ สตช.นั้นชอบด้วยกฎหมายแล้ว เพียงแต่สิ่งที่ศาลให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คืนคือเงินค้ำประกันสัญญาเนื่องจากสัญญาได้ถูกยกเลิกแล้ว แต่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีสิทธิ์โต้แย้งอยู่ เพราะอาจมีกรณีความเสียหายที่มากกว่าในกรณีที่ถ้าก่อสร้างต่อแล้วมีราคาแพงขึ้นมากกว่าเดิม ทั้งนี้ ยังไม่ได้ตรวจสอบว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการฟ้องแย้งไปหรือไม่ แต่จากนี้จะต้องมีการอุทธรณ์แน่นอน

สำหรับ คดีนี้ ยังไม่ถือว่าสิ้นสุดยังมีหลายประเด็นที่มีการโต้แย้งกันอยู่ เช่น  กรณีค่างวดงาน 18 ล้าน เขามีการลงทุนไปแล้วแต่ฟ้องมา 18 ล้าน ศาลจึงให้แค่ 15 ล้าน ส่วนกรณีเงินค้ำประกันก็คืนไปตามขั้นตอน ส่วนวัสดุที่อยู่ในไซต์งานก่อสร้างที่ฟ้อง 300 กว่าล้านบาท ศาลก็ให้เพียง 82 ล้าน เป็นต้น ตอนนี้คือ สตช. ต้องคืนเงิน 96 ล้านกับเงินค้ำประกันสัญญาที่ต้องคืนเขาไป นอกนั้นก็เป็นประเด็นต่างๆที่เราจะต้องขออุทธรณ์ โดยผู้รับผิดชอบเรื่องนี้คือกองคดีปกครองของกองคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะทำหน้าที่ติดตามและส่งข้อมูลหลักฐาน รวมถึงไปให้การในชั้นศาล ทั้งนี้ ต้องขอตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับการประมาณการณ์ก่อนว่าการก่อสร้างทำให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สูญเสียเงินมากขึ้นตรงไหนบ้าง เช่น วัสดุแพงขึ้น เรื่องของเวลา เรื่องของใช้บางอย่างที่ใช้ไม่ได้ ต้องไปฟ้องเรียกจากบริษัทด้วย ซึ่งสัญญานี้ในสมัย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ตั้งคณะกรรมการดูแลต่อไป ส่วนการก่อสร้างหลายโรงพักก็กำลังใกล้เสร็จแล้ว