*รอบวัน(2):เอกชนพอใจม.กระตุ้นอสังหาฯ/ททท.ตั้งเป้านักท่องเที่ยว50ล้านคนปี 2561*

+++มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล ตำบลละ 5 ล้านบาท รัฐบาล ยังคงตั้งวงเงิน 36,275 ล้านบาท สำหรับ 7,255 ตำบล เพื่อให้ทุกตำบลได้วงเงินครบเต็ม 5 ล้านบาท ให้มีเม็ดเงินลงไปกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับตำบลอย่างแท้จริง โดยไม่ให้เอาวงเงินของโครงการเดิม 2 โครงการ ได้แก่ มาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและคนยากจน 6,541 ล้านบาท และโครงการช่วยเหลือเกษตรกรในการจัดหาเครื่องจักรด้านเกษตรกรรม 490 ล้านบาท มารวมอยู่ในงบตำบลละ 5 ล้านบาท และให้สำนักงบประมาณ นำเสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)อีกครั้งในสัปดาห์หน้า  

+++ทั้งนี้ จะมีการตรวจสอบว่าโครงการทั้ง 2 โครงการดังกล่าวมีการเสนอโครงการมาซ้ำซ้อนกับมาตรการตำบลละ 5 ล้านบาทหรือไม่ หากพบว่าโครงการซ้ำซ้อนกันจะยึดโครงการของมาตรการ 5 ล้านบาทต่อตำบลเป็นหลัก นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า สำนักงบประมาณจะยืดระยะเวลาการเสนอโครงการในมาตรการ 5 ล้านบาทต่อตำบล จนถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2558 จากมติครม.เดิมกำหนดให้เสนอโครงการเสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 กันยายน

+++นายอากิระ มูราโคชิ ประธานหอการค้าและคณะผู้บริหารญี่ปุ่นกรุงเทพ  เข้าพบ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ที่ทำเนียบรัฐบาล

+++กระทรวงการคลัง เตรียมประชุมพิจารณามาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์วันนี้   โดยจะออกมาตรการช่วยเหลือทั้งผู้ประกอบการและผู้ซื้อรายย่อยที่ต้องการมีบ้าน ซึ่งมาตรการจะประกอบไปด้วย มาตรการลดค่าธรรมเนียมและการผ่อนคลายการปล่อยสินเชื่อ มาตรการที่จะเสนอ นายอภิศักดิ์ ตันติวงวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง วันนี้ จะเป็นการปรับลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองลงเหลือร้อยละ 0.01  ของราคาประเมิน เสนอให้ระดับนโยบาย และ คณะรัฐมนตรีพิจารณา เพื่อลดภาระผู้ซื้อ และผู้ขาย โดยจะกำหนดระยะเวลาของมาตรการ ดังกล่าว เป็นช่วงสั้นระยะ 6 เดือนถึง 1 ปี  ปัจจุบัน ค่าธรรมเนียมการโอน คิดในอัตราร้อยละ 2 ของราคาประเมิน ส่วนค่าจดจำนองคิดในอัตราร้อยละ 1 ของราคาประเมิน

+++สำหรับมาตรการครั้งนี้ จะไม่มีการเสนอให้ลดภาษีธุรกิจเฉพาะ เนื่องจากในส่วนผู้ประกอบการไม่ได้รับผลกระทบเหมือนในอดีต และภาคอสังหาริมทรัพย์ก็ยังไม่ล้นตลาด แต่ปัญหาครั้งนี้ มีผลกระทบต่อผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน เนื่องจากธนาคารพาณิชย์เข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น ผลมาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ธนาคารกังวลถึงปัญหาหนี้เสีย

+++นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เห็นด้วยช่วยลดแบ่งเบาภาระผู้บริโภคโดยตรง โดยจะช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาส 4 ให้มีความคึกคักมากขึ้น และน่าจะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ ติดลบน้อยลง ช่วงไตรมาสที่ 4 นี้มีโครงการคอนโดมิเนียมที่รอโอนมูลค่ารวมกว่า 8 หมื่นล้านบาท เมื่อมีมาตรการออกมาช่วยกระตุ้น คาดว่าคอนโดเหล่านี้จะสามารถโอนได้ทั้งหมด

+++นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า แถลงตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.ย. 2558 ที่กระทรวงพาณิชย์ โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปี อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบร้อยละ 0.89

+++นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และในฐานะรองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยปี 2558 คาดว่าติดลบไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 เนื่องจากการส่งออกของไทย 8 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-ส.ค.) มีมูลค่า 1 แสน 42,747 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ติดลบร้อยละ 4.92 และ 4 เดือนที่เหลือของปีนี้ คาดว่ายังขยายตัวในระดับต่ำต่อไป ส่งออกของไทยเดือน ส.ค.2558 มีมูลค่า 1 หมื่น 7,669 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ติดลบร้อยละ 6.69 ติดลบสูงสุดในรอบปี มากกว่าที่คาดไว้ แม้ว่าค่าเงินบาทของไทยจะอ่อนค่าแต่คู่แข่งทางการค้าเองก็อ่อนค่าเช่นกัน ความได้เปรียบในจุดนี้จึงไม่ได้มีผลนัก แต่การส่งออกของไทยที่ติดลบหากเทียบกับประเทศที่เน้นการส่งออกไทยถือว่าติดลบไม่มากนักและข้อดีคือพบว่าส่วนแบ่งการตลาดของแต่ละตลาดส่งออกเรายังคงไม่ลดลง

+++การส่งออกที่เหลือ 4 เดือน หลังตลาดที่จะมีโอกาสเติบโตได้ ยังคงการค้าชายแดนที่กระทรวงพาณิชย์เองก็มีเป้าหมายที่จะผลักดันและลดอุปสรรคทางการค้าต่าง ๆ ซึ่งจะเห็นว่าเดือน ส.ค. การค้าชายแดนของไทยเติบโตถึงร้อยละ 5 ขณะที่ตลาดอื่น ๆ ลดหมด อย่างไรก็ตามมาตรการของกระทรวงพาณิชย์เพื่อฟื้นยอดส่งออกในปี 2559 โดยการจัดทัพทูตพาณิชย์ที่มีฝีมือเพื่อบุกตลาดรายเมือง 50 แห่งทั่วโลกคงจะช่วยขับเคลื่อนการส่งออกได้ชัดเจน รวมถึงเศรษฐกิจโลกมองว่าปีนี้น่าจะเป็นจุดต่ำสุดแล้ว

+++กรณีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ต้องการให้ภาคการท่องเที่ยวเป็นหลักสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศเทศ โดยต้องการให้ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยเพิ่มเป็น 50 ล้านคนภายใน 3 ปี หรือปี 2561 นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า  เป้าหมายดังกล่าวมีความเป็นไปได้ ซึ่งจะต้องทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเติบโตเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 จากปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 30 ล้านคน ส่วนรายได้หากจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นไปตามเป้าหมาย 50 ล้านคน คาดว่าในปี 2561 จะมีรายได้ ไม่ต่ำกว่า 3 ล้านล้านบาทอย่างแน่นอน จากปีนี้สร้างรายได้ 2.2 ล้านล้านบาท ททท.มองว่านับจากนี้คงต้องรุกทำการตลาดอย่างจริงจังมากขึ้น สิ่งสำคัญ คือต้องพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานต่างๆ รองรับให้เพียงพอกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น และจำเป็นต้องทำงานในลักษณะบูรณาการ เนื่องจากมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและต้องเดินหน้าไปพร้อมกัน

+++ด้านนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แถลง การส่งเสริมโอท็อป กระตุ้นการท่องเที่ยว

+++ นายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า กรมเจ้าท่าเปิดให้ผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป สามารถทำบัตรรับสิทธิลดหย่อนค่าโดยสารเรือประจำทางในเรือด่วนเจ้าพระยา เรือคลองแสนแสบ และเรือข้ามฟาก ได้ในอัตรากึ่งหนึ่งของอัตราค่าโดยสารปกติ  ที่ สำนักมาตรฐานทะเบียนเรือ กรมเจ้าท่า อาคาร 1 ชั้น 2 และศูนย์บริการร่วมกระทรวงคมนาคม ท่าเรือสะพานตากสิน (สาทร) ในวันและเวลาราชการ เพื่อเป็นการช่วยเหลือลดค่าครองชีพ และช่วยดูแลคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน เพียงแสดงบัตรผู้สูงอายุที่ออกให้โดยกรมเจ้าท่าต่อพนักงานเก็บค่าโดยสาร จะได้รับส่วนลดหย่อนตามระยะทางที่กำหนด โดยเปิดให้เข้ามาทำบัตรได้ตลอด ในวันและเวลาราชการ โดยยังยกเว้นค่าโดยสารเรือสำหรับคนพิการ และเด็กที่มีความสูงไม่เกิน 90 ซม.ด้วย

+++กรณีเรือภัทรมารีน 5 ที่บรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ บรรจุสินค้าประเภทอาหารกระป๋องและกล่องใส่ผลิตภัณฑ์ 88 ตู้ถูกคลื่นลมซัดจมกลางดึกวันที่ 19 ก.ย. ส่งผลให้ลูกเรือ 4คน ถูกระลอกคลื่นซัดจมหายไปกับกระแสน้ำ เหตุเกิดบริเวณปากอ่าว จ.สมุทรปราการ ห่างชายฝั่งประมาณ 8 ไมล์ทะเล บริเวณหัวเรือได้รับความเสียหายเนื่องจากถูกตู้คอนเทรนเนอร์กระแทกแตกเป็นรูขนาดใหญ่ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่บริษัทต้องดำน้ำลงไปใช่อุปกรณ์เชื่อมใต้น้ำอุดรอยรั่วบริเวณหัวเรือและกาบเรือซ้ายขวา เป็นเหตุให้การกู้ซากเรือต้องล่าช้าออกไป คาดว่าในวันที่ 2 ต.ค.น่าจะนำแท่งพอนทูนจมลงไปคล้องที่หัวเรือและกาบเอซ้ายขวาได้ก่อนอัดอากาศลงไปพยุงเรือให้ลอยขึ้นบนผิวน้ำ ส่วนญาติของผู้สูญหายทั้ง 4 คนยังไม่ละความพยายามได้เดินทางมาเฝ้าติดตาม

+++คดีกระทำชำเราเด็กอายุ 1 ปี 8 เดือน ศาลจังหวัดหนองคาย อนุมัติหมายจับนายนพรัตน์ รูปสวย ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ แม้ว่าจะยังไม่ยอมรับสารภาพ แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานแน่นหนาเพียงพอ แต่ต้องรอผลยืนยันการตรวจดีเอ็นเออีกครั้ง ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินคดีกับนายนพรัตน์ ได้แน่นอน ส่วนแม่เด็ก จะสอบสวนอย่างละเอียดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทารุณกรรมด้วยหรือไม่

+++เมื่อเวลา 07.05 น. ตามเวลาในประเทศไทย แผ่นดินไหวขนาด 5.5 ตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย ลึก 53 กม. ยังไม่มีรายงานความเสียหาย

CR:รักเธอประเทศไทย