*รอบโลก:จีน สอบชายต้องสงสัยวางระเบิด/เวียดนามลงโทษผสข.เป็นสายลับให้จีน*

+++ติดตามสถานการณ์ที่จีน หลังเกิดเหตุระเบิดโจมตีอย่างน้อย 15 จุด ในเขตชุมชนเมืองของอำเภอหลิ่วเฉิง เมืองหลิ่วโจว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางภาคใต้ตอนกลางของจีน เมื่อบ่ายวันพุธ ระหว่างเวลา 15.30 น. - 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น  ระเบิดเสียงดังสนั่นทั่วเมือง สร้างความเสียหายต่อสถานที่ราชการ และสถานที่สาธารณะจำนวนมาก รายงานเบื้องต้นระบุมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ศพ ได้รรับบาดเจ็บมากกว่า 51 คน

+++นายโจว ฉางกิง หัวหน้าสำนักงานตำรวจอำเภอหลิ่วเฉิง เปิดเผยต่อสำนักข่าวซินหัวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าระเบิดทั้งหมดถูกซ่อนไว้ในหีบห่อพัสดุไปรษณีย์ และส่งถึงสถานที่ต่างๆ เช่น หน่วยราชการท้องถิ่นหลายแห่ง โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า เรือนจำ สถานีรถโดยสาร และตลาด ก่อนจะระเบิดขึ้นหลังพัสดุส่งถึงจุดหมาย

+++ภาพถ่ายที่มีผู้โพสต์ลงออนไลน์ เผยให้เห็นบางส่วนของอาคารสูง 6 ชั้นพังทลาย และถนนหลายสายเต็มไปด้วยฝุ่นและเศษสิ่งของ เช่นกระจก อิฐ ไม้ และชิ้นส่วนอื่นๆ อีกหลายภาพแสดงให้เห็นรถยนต์หลายคันพังเสียหายและพลิกหงายท้อง

+++เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุได้ เป็นชายวัย 33 ปี นามสกุล เหว่ย และกำลังสอบสวน

+++เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง มีเขตแดนทางใต้ติดกับประเทศเวียดนาม มีกลุ่มชาติพันธุ์หลายกลุ่ม ตามปกติเป็นดินแดนที่สงบ ในช่วงไม่กี่ปี ชาวจีนที่มีความคับแค้นใจ ได้ก่อเหตุระเบิดโจมตีสถานที่ราชการท้องถิ่น และสถานที่สาธารณะต่างๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจต่อความเดือดร้อนของตัวเอง

+++นายหง เหล่ย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงว่า ทางการจีนได้ควบคุมตัวชาวญี่ปุ่น 2 คน ฐานต้องสงสัยจารกรรมความลับทางราชการ ทั้งคู่ถูกควบคุมตัวเมื่อเดือน พ.ค. คนหนึ่งถูกจับใกล้ฐานทัพในมณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออก ขณะที่อีกคนถูกจับกุมในพื้นที่มณฑลเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ติดพรมแดนเกาหลีเหนือ นายหง กล่าวว่า ทุกอย่างได้ดำเนินไปตามกระบวนการตอนทางกฎหมาย ทั้งคู่ถูกจับกุมภายใต้ข้อหาจำนวนมากที่เกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายการต่อต้านการสืบความลับราชการ

+++สำนักข่าวเกียวโดนิวส์รายงานว่า ชาวญี่ปุ่นทั้ง 2 คนอายุราว 50 ปี นายโยชิฮิเดะ สึกะ หัวหน้าเลขานุการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงว่า เชื่อว่าทั้งสองคนเป็นประชาชนทั่วไป รัฐบาลญี่ปุ่น เสนอให้ความช่วยเหลือทางการทูตไปแล้ว ยืนยันว่า รัฐบาลญี่ปุ่นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจารกรรมความลับ

+++ศาลเวียดนามในกรุงฮานอยของเวียดนาม ลงโทษจำคุก นายฮา ฮุย ฮวง ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ของกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม เป็นเวลา 6 ปี จากความผิดฐานเป็นสายลับให้กับจีน นายฮวงถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเมื่อเดือน ต.ค. 2557 ถูกกล่าวหาว่า ส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในเวียดนาม และภาวะของผู้นำประเทศ ให้กับหน่วยข่าวกรองจีน โดยผ่านผู้หญิงคนหนึ่ง นับตั้งแต่ปี 2554 รายงานในหนังสือพิมพ์เจื่อนแจของทางการเวียดนาม ระบุว่า นายฮวง เดินทางไปจีนอย่างน้อย 6 ครั้ง เพื่อพบกับ "ผู้ดูแล" เขา ในเมืองหนานหนิง เมืองเอกของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง

+++ด้านทนายความของนายฮวง ยืนยันต่อศาลว่า ลูกความไม่รู้ว่าผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาติดต่อ ทำงานให้กับหน่วยข่าวกรองจีน และข้อมูลที่มอบให้เป็นข้อมูลสาธารณะ และไม่เกี่ยวข้องกับความลับของรัฐ และมีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต

+++เวียดนามกำลังมีความขัดแย้งยืดเยื้อกับจีน เกี่ยวกับดินแดนหมู่เกาะ และน่านน้ำพิพาทในทะเลจีนใต้ คดีนี้ตัดสินก่อนที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน จะเดินทางเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าประมาณปลายปีนี้

+++รัฐบาลสิงคโปร์ ควบคุมตัวชาวสิงคโปร์ 2 คน ข้อหาพยายามเดินทางไปซีเรียเพื่อเข้าร่วมกับกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) กระทรวงมหาดไทยสิงคโปร์แถลงว่า สองคนที่ถูกควบคุมตัวคือ นายมูฮัมหมัด ชามิน โมฮาเหม็ด ซิเด็ก วัย 29 ปี และนายมูฮัมหมัด ฮาริท ไจลานี วัย 18 ปีถูกควบคุมตัวโดยไม่ต้องขึ้นศาลตามกฎหมายความมั่นคงภายในประเทศ ท่ามกลางความวิตกมากขึ้นว่าจะมีเยาวชนจำนวนมากขึ้นไปเข้าร่วมกลุ่มไอเอส และไปเป็นนักรบต่างชาติ 

+++ไปที่เมียนมาร์ คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติเมียนมาร์  แถลงว่า มีพรรคการเมืองกว่า 90 พรรค ส่งสมาชิกลงแข่งขันรับเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งทั่วไปของเมียนมาร์ ที่กำหนดมีขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. สมาชิกพรรคการเมืองต่างๆ กว่า 6,000 คน จะแข่งขันชิงที่นั่งสมาชิกรัฐสภา และสมาชิกสภา 14 รัฐและเขตทั่วประเทศ การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการกำหนดทิศทางและขอบเขตของการปฏิรูป ที่เริ่มตั้งแต่ปี 2554 หลังประเทศตกอยู่ภายใต้การปกครองของทหาร นานเกือบครึ่งศตวรรษ คาดกันว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นการแข่งขันกันระหว่าง 2 พรรคใหญ่คือ พรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (ยูเอสดีพี) พรรครัฐบาลของประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ซึ่งมีนานยฮเตย์ อู เป็นผู้นำพรรคคนปัจจุบัน และพรรคสันนิบาติแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) แกนนำฝ่ายค้าน นำโดยนางออง ซาน ซูจี ผู้พิชิตรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 2534

+++เครื่องบินรบกองทัพอากาศรัสเซีย เริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรียเป็นครั้งแรก เป็นการโจมตีเป้าหมายกลุ่มไอเอส แต่สหรัฐฯและอีกหลายประเทศตั้งข้อสงสัย ดูเหมือนรัสเซียจะโจมตีกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด การโจมตีถือเป็นการเริ่มแทรกแซงทางทหารเป็นครั้งแรกของรัสเซีย ต่อความขัดแย้งในซีเรียที่ดำเนินมาตั้งแต่กลางเดือน มี.ค. 2554

+++ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย พยายามชี้ให้เห็นว่า การโจมตีทางอากาศครั้งนี้เป็นการโจมตีเพื่อ ตัดไฟแต่ต้นลม ต่อกลุ่มหัวรุนแรงไอเอส ที่ยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของซีเรียและอิรัก และจากข้อมูลของทางการรัสเซีย ระบุว่า ปัจจุบันมีพลเมืองรัสเซียอย่างน้อย 2,400 คน เข้าร่วมการสู้รบกับกลุ่มหัวรุนแรงในซีเรียและอิรัก ถ้ากลุ่มหัวรุนแรงเหล่านี้ประสบความสำเร็จในซีเรีย พวกเขาก็จะกลับคืนสู่บ้านเกิด และกลับคืนสู่รัสเซียเช่นกัน

+++สหรัฐฯและรัสเซียเห็นพ้องกัน เกี่ยวกับความจำเป็นในการปราบปรามกลุ่มไอเอส แต่ขัดแย้งกันในประเด็น จะทำอย่างไรกับรัฐบาลซีเรียของนายอัสซาด โดยสหรัฐฯต้องการให้นายอัสซาดพ้นจากอำนาจ แต่รัสเซียไม่เห็นด้วย และสนับสนุนนายอัสซาดอย่างเต็มที่

+++ด้านฝรั่งเศส นายโลรองต์ ฟาเบียส รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า อัยการประจำกรุงปารีส เริ่มสอบสวนรัฐบาลประธานาธิบดีอัสซาดของซีเรียตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน ในข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติระหว่างปี 2554-2556

+++การสอบสวนของอัยการฝรั่งเศส ใช้หลักฐานภาพถ่ายกราฟฟิกราว 55,000 ใบ ที่บันทึกไว้โดยอดีตช่างภาพประจำกองทัพซีเรียคนหนึ่งที่หนีศึกและหลบหนีออกนอกประเทศเมื่อปี 2556  ภาพที่ได้รับการเผยแพร่ชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลซีเรีย ใช้วิธีการทรมานและสังหารพลเมืองอย่างโหดร้าย

+++ประเด็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในซีเรีย เป็นหัวข้อสำคัญในที่ประชุมใหญ่ของยูเอ็น  สำหรับสงคราม 4 ปีของซีเรีย มีคนเสียชีวิตกว่า 2 แสน40,000 ศพ มีคนไร้ที่อยู่อาศัยหลายล้านคน เป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดวิกฤติผู้อพยพขึ้นในยุโรป

+++รัฐมนตรีมหาดไทยของรัฐบาวาเรีย ทางภาคใต้ของเยอรมนี เปิดเผยว่าเฉพาะเดือนกันยายน มีผู้ลี้ภัยหลั่งไหลเข้ามายังเยอรมนี ราว 2 แสน 70,000 ถึง 2 แสน80,000 คน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องเร่งรีบลงทะเบียนผู้ลี้ภัย เช่นเดียวกับจัดเตรียมที่พัก อาหารและการดูแลพื้นฐานแก่ผู้ลี้ภัยรายใหม่ที่เพิ่งเดินทางมาถึง 

+++เหตุเหยียบกันตายที่เมืองเมกกะ ซาอุดิอาระเบีย อิหร่านเรียกอุปทูตซาอุดีอาระเบียประจำอิหร่านมารับทราบอีกครั้งในเรื่องที่ทางการต้องการให้เร่งพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลผู้เสียชีวิตจากเหตุที่เกิดขึ้น และส่งศพกลับอิหร่าน

+++นอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ มีรายงานว่า รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านจับมือกับประธานาธิบดีโอบามา กระทรวงการต่างประเทศอิหร่านยืนยันว่ามีการเจอกันโดยบังเอิญระหว่างนายโอบามากับนายโมฮัมหมัด จาวาด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศ และไม่ได้ปฏิเสธข่าวเรื่องการจับมือกัน รายงานข่าวดังกล่าวกระตุ้นให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอิหร่าน พากันออกมาโจมตีนายซารีฟ อย่างเกรี้ยวกราด

+++องค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ปรับลดตัวเลขประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจโลกซึ่งเป็นตัวแทนการนำเข้า-ส่งออกสินค้าทั่วโลก ในปี 2558ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.8 จากเดิมที่เคยตั้งไว้ที่ร้อยละ 3.3 เนื่องจาก จีนนำเข้าสินค้าลดลง นโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ตลาดการเงินที่ผันผวนและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับลดลง

CR:Channel New Asia