สรุปข่าว 19.35 น.
++การดำเนินการเรียกค่าเสียหายทางแพ่งจากโครงการจำนำข้าว นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดในส่วนของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลัง ได้สรุปเรื่องมาให้แล้ว หลังจากนี้จะเสนอเรื่องให้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พิจารณาโดยไม่มีกำหนดเวลาจะต้องเสร็จ จากนั้นก็จะเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะที่เป็นผู้ร่วมพิจารณา ถ้านายกฯ รมว.คลัง และ รมว.พาณิชย์เห็นว่าควรสอบเพิ่มเติมก็จะส่งไปสอบประเด็นนั้น แต่ถ้าเพียงพอแล้วก็จะลงนามส่งไปคณะกรรมการพิจารณาการรับผิดความแพ่งอีกชุดหนึ่งซึ่งมีอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธาน พิจารณา อาจเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับคณะกรรมการ 2 ชุดก็ได้ ถ้าเห็นด้วยก็ทำเรื่องส่งกลับไปยังนายกฯ และกระทรวงคลัง และพาณิชย์ ก็จะออกคำสั่งทางปกครอง เรียกให้รับผิดทางแพ่งจึงถือว่าจบกระบวนการ ส่วนเรื่องอายุความ มีเวลาสองปีนับตั้งแต่รู้ตัวผู้รับผิดและรู้ผลการกระทำความผิดในส่วนอดีตเจ้าหน้าที่รัฐมีเวลาสองปีก็จะครบในปี 2560 ส่วนคนที่เป็นเอกชนที่ร่วมกระทำความผิด 15 ราย ก็มีระยะเวลาฟ้องศาลแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายภายใน 1 ปี ซึ่งภายในปี 2559
+++กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ยื่นฟ้อง นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด (อสส.) , นายชุติชัย สาขากร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ , นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และนายกิตินันท์ ธัชประมุข รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ซึ่งเป็นคณะทำงานพิจารณาคดี และมีความเห็นสั่งฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ คดีโครงการจำนำข้าว นายชุติชัย กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจ พิจารณาไปตามกระบวนการข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องที่อัยการขอเบิกพยานเอกสาร ที่เข้ามาอยู่ในสำนวนคดีทุจริตจำนำข้าว กว่า 60,000 แผ่น เพราะเห็นว่าสำนวนคดีทุจริตขายข้าว แบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) มีความเชื่อมโยงกับคดีรับจำนำข้าวด้วย จึงต้องมีพยานหลักฐานเข้ามาเพิ่มเติม
+++ด้านนายตระกูล โพสต์ข้อความและรูปภาพในเฟซบุ๊คส่วนตัว ชื่อว่า “Trakul Winitnaiyapak” ว่า คุณพ่อสอนผมไว้ว่า “รับราชการต้องอดทน อดกลั้น ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อแทนคุณแผ่นดิน” คดี “จำนำข้าว”ผมต้องทำตามหน้าที่…ครับ
+++ขณะที่ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 1 (กองแก้ต่างคดี) กล่าวว่า เรื่องนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของศาล ที่ยังต้องตรวจคำฟ้อง และพิจารณาก่อนว่า เข้าเงื่อนไขฟ้องได้หรือไม่ ซึ่งจะใช้เวลาในส่วนนี้ 7 วัน โดย ถ้าศาลพิจารณาแล้วสามารถฟ้องได้ ศาลก็จะส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องมาให้อัยการสูงสุด และผู้ถูกฟ้องทุกคน จากนั้น ผู้ถูกฟ้องก็จะส่งเรื่องมาให้กองคดีแก้ต่างสำนักงานคดีอาญา 1 และ 2 ตาม พ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ มาตรา 14(4) เพราะถูกฟ้องในขณะปฏิบัติหน้าที่ แต่หากศาลไม่รับฟ้อง คิดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ คงจะยื่นอุทธรณ์ไปตามระบบ
+++ศาลอาญา ออกหมายจับ นายประมวล หุตะสิงห์ อดีตรองผู้จัดการใหญ่บริษัทท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด (บทม.) และคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาจ้างเหมา และนายปรีติ เหตระกูล อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บทม. หลังไม่มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา กรณีเมื่อปี 2539 จำเลยร่วมกันแก้ไขปรับราคากลางการประกวดราคาจ้างเหมาปรับปรุงคุณภาพดินท่าอากาศยานกรุงเทพแห่งใหม่ ( หนองงูเห่า) ให้สูงขึ้นกว่าเดิม แต่เมื่อถึงเวลานัด นัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 10 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
+++การประชุมคณะกรรมการเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรม แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความรุนแรงทางการเมือง รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฏหมาย กล่าวว่า ที่ประชุมตั้งคณะอนุกรรมการ 1 ชุด เพื่อรับคำร้อง ดูแลและอนุมัติการเบิกจ่ายให้ผู้ที่ลงทะเบียนได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรงทางการเมืองปี 2556-2557 ซึ่งมีเงื่อนไขให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (1 ตุลาคม 2558) เป็นต้นไป ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
+++การจำลองเหตุการณ์ การเสียชีวิตของนายชูวงษ์ หรือเสี่ยจืด แซ่ตั๊ง อายุ 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง พล.ต.ต. อัคราเดช พิมลศรี ผู้บังคับการกองปราบปราม เรียกประชุมพนักงานสอบสวนและคณะทำงานทั้งคดีเสียชีวิตและคดีโอนหุ้นผิดปกติในวันศุกร์ที่ 2 ตุลาคมนี้ เพื่อตรวจสอบสำนวนและความคืบหน้าของคดี ขณะนี้ยังคงรอผลการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ จากกองพิสูจน์หลักฐาน ที่คาดว่าจะส่งมายังพนักงานสอบสวน ภายใน 3 สัปดาห์ การจำลองเหตุการณ์ทำให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการสืบสวนเป็นอย่างมาก เพื่อตอบทุกข้อสงสัย ส่วนคดีการโอนหุ้นผิดปกติ พนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดี รายงานว่า อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งรอหลักฐานบางส่วนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์( ก.ล.ต.) คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนได้ภายในสัปดาห์หน้า ก่อนการฝากขังครั้งสุดท้าย 12 ตุลาคมนี้ แน่นอน
+++นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในปี 2558 มีเงินทุนไหลออกสุทธิประมาณ 5,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการไหลออกจากทั้งตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรของไทยประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯและ 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามลำดับ การไหลออกของเงินทุน มากขึ้นในช่วงเดือน ส.ค. จากความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่มีมากขึ้น รวมทั้งการปรับลดลงของตลาดหุ้นจีนที่ค่อนข้างมาก ธปท.จะติดตามภาวะเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิด
+++เศรษฐกิจไทยเดือนสิงหาคม ยังคงอ่อนแอ จากการส่งออกที่หดตัวร้อยละ 9.5 มูลค่าการส่งออก 17,587 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผลจากตลาดจีนและอาเซียน ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามการส่งออกที่ติดลบเป็นไปตามคาดการณ์ของธปท.ซึ่งเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม ขณะเดียวกันผู้ผลิตจำเป็นต้องปรับปรุงสินค้าเพื่อให้เป็นที่ตรงความต้องการของตลาดโลก เชื่อว่า เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศจี3 ได้แก่ สหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งมีสัดส่วนการส่งออกรวมกันร้อยละ30 จะดีขึ้นในปี2559 จะมาชดเชยการชะลอตัวของตลาดจีนและอาเซียนได้
+++ภาคครัวเรือน ยังต้องระวังการใช้จ่าย โดยเฉพาะรายได้นอกภาคการเกษตร ยังมีปัจจัยบวกที่สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ คือการท่องเที่ยว แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชะลอตัวจากเหตุการณ์ระเบิดราชประสงค์ แต่สถานการณ์ที่คลี่คลายได้เร็ว ทำให้การท่องเที่ยวในเดือนกันยายนปรับตัวดีขึ้น และคาดว่าจักลับมาเป็นปกติในอีก2-3เดือน
+++ กสทช. สรุปยอดเอกชนยื่นคำขอประมูล 4 จี จำนวน 4 ราย เตรียมตรวจสอบคุณสมบัติภายใน 15 วัน คาดสร้างมูลค่าเงินหมุนเวียนกว่า 2 แสนล้านบาทในอีก 2 ปีข้างหน้า ผู้ประกอบการเอกชน 4 ราย ยื่น ของเข้าร่วมประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิร์ตซ บริษัทแจสโมบาย บรอดแบนด์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด (มหาชน) บริษัท ดีแทคไตรเน็ต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ตเวิร์ก หรือ AWN ในเครือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส และ4. บริษัท ทรูมูฟเอช ยุนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่นจำกัด ซึ่งอยู่ในเครือบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จากจำนวน 7 รายที่มาขอรับเอกสาร กสทช.จะเปิดประมูล 4 จี ในวันที่ 11 พ.ย.58 ซึ่งจะเปิดให้ประมูลจำนวน 2 ใบอนุญาตแบ่งเป็นใบละ 15 เมกะเฮิร์ตซ และมีอายุ 18 ปีราคาเริ่มต้นการประมูลขั้นต่ำ 15,912 ล้านบาท เคาะครั้งละ 5 % หรือคิดเป็นเงินเคาะครั้งละ 796 ล้านบาทของมูลค่าคลื่น และเมื่อเคาะราคาถึง19,890 ล้านบาท ราคาเคาะประมูลจะเหลือครั้งละ 2.5 % หรือคิดเป็นเงินเคาะครั้งละ 398 ล้าน ซึ่งเชื่อมั่นว่าการประมูล 4 จีครั้งนี้จะส่งสามารถนำเงินส่งเป็นรายได้แผ่นดินประมาณ 40,000 ล้านบาทและหลังจากเปิดให้บริการในอีก 2 ปีข้างหน้าจะสร้างมูลค่าเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 2แสนล้านบาท
+++หุ้นไทย ปิดตลาดบวก0.16 จุด ที่ระดับ 1,349 จุด มูลค่าซื้อขาย 35,498.80ล้านบาท การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 457.31 จุด ปิดที่ 17,388.15 จุด ฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 289.70 จุด ปิดที่ 20,846.30 จุด
+++รอยเตอร์รายงานอ้างนายเซอร์เก อิวานอฟ หัวหน้าทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียว่า รัฐสภาลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้อำนาจแก่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินในการส่งกำลังทหารไปยังซีเรีย แต่จะเกี่ยวข้องกับภารกิจของกองทัพอากาศเท่านั้น ที่ผ่านมารัสเซียเริ่มจัดส่งทหารและอาวุธเข้าไปยังซีเรียมากขึ้น เพื่อสนับสนุนกองกำลังรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาดของซีเรีย ที่ต้องสู้รบทั้งกับกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)และกลุ่มกบฏที่ได้รับการหนุนหลังจากชาติตะวันตก นายอิวานอฟ กล่าวหลังการลงมติของวุฒิสภาของรัสเซีย ว่า ผู้นำซีเรียร้องขอให้ผู้นำรัสเซียส่งกำลังทหารไปช่วยสู้รบดังกล่าว แต่ระบุว่าการลงมติของรัฐสภาในครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าทหารภาคพื้นดินของรัสเซียจะไปปฏิบัติภารกิจในซีเรีย ระบุว่ารัฐสภาอนุมัติให้ใช้กองทัพอากาศเท่านั้น
+++การจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันรวมประจำปี 2558-2559 ที่เผยแพร่โดยสภาเศรษฐกิจโลก(ดับเบิลยูอีเอฟ)ในนครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ในวันนี้ ระบุว่าเศรษฐกิจจีนไม่น่าจะประสบภาวะชะลอตัวอย่างรุนแรง นอกจากนี้ รายงานของดับเบิลยูอีเอฟ เพิ่มเติมว่าการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีนเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่พ้น เป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้และเป็นเรื่องปกติ หลังการเติบโตในอัตราที่สูงต่อเนื่องมาตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ระบุว่ามีสัญญาณบ่งชี้ว่า รัฐบาลจีนเริ่มเตรียมเศรษฐกิจของประเทศให้เข้าการเติบโตในช่วงต่อไป พร้อมปรับเปลี่ยนเป้าหมายจากการเติบโตในเชิงปริมาณไปสู่การเติบโตในเชิงคุณภาพ เพิ่มเติมว่าปัจจัยที่สร้างปัญหามากที่สุดสำหรับการทำธุรกิจในจีนคือ การขาดความสามารถในด้านการสร้างนวัตกรรม