*นายกฯขอบคุณมิตรประเทศให้กำลังใจเหตุระเบิด ยืนยันคนไทยไม่ยอมรับการก่อเหตุรุนแรง*

30 กันยายน 2558, 11:36น.


การร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงในหัวข้อเกี่ยวกับปัญหาที่ซับซ้อนในปัจจุบันขอบคุณมิตรประเทศที่ร่วมแสดงความเสียใจและส่งกำลังใจให้กับประชาชนไทย หลังเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์ ซึ่งคนไทยไม่สามารถยอมรับการก่อเหตุรุนแรงได้ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในประเทศไทยหรือที่ใด ๆ ในโลก โดยไทยจะร่วมมือกับประชาคมโลกอย่างถึงที่สุดเพื่อยุติความรุนแรง เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพ ประเทศไทยพร้อมที่จะสนับสนุนภารกิจการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ด้วยการส่งกองกำลังรักษาสันติภาพ ในลักษณะหน่วยเฉพาะกิจเข้าร่วมปฏิบัติการกับชาติพันธมิตรด้วย  โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายที่มีความโยงใยซับซ้อนในหลายมิติ ผู้คนทั่วทุกมุมโลกต่างต้องเผชิญกับความท้าทายในรูปแบบต่าง ๆ ที่คุกคาม ทั้ง 3 เสาหลักของสหประชาชาติ สันติภาพ และความมั่นคง สิทธิมนุษยชนและการพัฒนา ดังจะเห็นได้จากความขัดแย้งอันเกิดจากความแตกต่างทางความคิดที่นำไปสู่สถานการณ์ความรุนแรงในภูมิภาคต่าง ๆ ความเหลื่อมล้ำ ไม่เท่าเทียมกันในสังคม การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม หรือผลจากภัยธรรมชาติ ขอยืนยันว่า ประเทศไทยพร้อมที่จะเป็นหุ้นส่วนกับเพื่อนประเทศสมาชิก เพื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายทั้งเก่าและใหม่ และนำมาซึ่งการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ เพื่อประโยชน์สุขร่วมกันของประชาคมระหว่างประเทศ



นายกรัฐมนตรี รับปากต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นด้วยว่า ไทยจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ร้อยละ 20 ถึง 25 ภายในปี 2573 นอกจากนี้ไทยจะรณรงค์หาเสียงเพื่อชิงเก้าอี้สมาชิกไม่ถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวาระปี 2560 ถึง 2561 อีกด้วย



นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้พบปะหารือกับนักธุรกิจและแพทย์ไทยในนครนิวยอร์กและรัฐใกล้เคียง อาทิ ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผู้นำเข้าผลิตภัณท์อาหารไทย เครื่องดื่ม กล้วยไม้ ผู้ประกอบธุรกิจอัญมณีเครื่องประดับ ธุรกิจขนส่งสินค้า ธุรกิจน้ำหอมและธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น



พล.ต.วีรชน เปิดเผยว่า การมาประชุมสหประชาชาติครั้งนี้ เพื่อทำหน้าที่คนไทย รัฐบาลได้ดำเนินงานต่างๆ ทั้งการแก้ไขปัญหาด้านประมง ปัญหาการลักลอบค้ามนุษย์ การอำนวยความสะดวกโดยจัดตั้งศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) เพื่อลดขั้นตอนราชการ รวมทั้งตั้งศูนย์ดำรงธรรมเพื่อรับคำร้องเรียนจากประชาชน โดยเฉพาะที่ต่างประเทศ คือ สถานเอกอัครราชทูต 



สำหรับการส่งเสริมการลงทุน รัฐบาลดำเนินการปรับสัดส่วนสิทธิประโยชน์ทางภาษีและไม่ใช่ภาษี จัดตั้งและส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ส่งเสริมการท่องเที่ยว เป็นต้น



นายกรัฐมนตรียังได้ขอให้นักธุรกิจเชื่อมโยงกับธุรกิจ SMEs ในประเทศไทยด้วย  นักธุรกิจได้เสนอให้รัฐบาลส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาล หรือ Medical Hub เพื่อสนับสนุนให้คนอเมริกันเดินทางมารักษาตัวที่ประเทศไทย รวมทั้งส่งเสริมการผลิตชิ้นส่วนเครื่องมือแพทย์และอวัยวะเทียม เนื่องจากไทยมีศักยภาพ ตลอดจนสนับสนุนการส่งออกสมุนไพรไทย ส่งเสริมการปลูกมะพร้าว นอกจากนี้ นักธุรกิจไทยยังได้ขอให้รัฐบาลสนับสนุนด้านการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ด้วย



 



CR:ทำเนียบรัฐบาล

ข่าวทั้งหมด

X