+++คดีทุจริตจำนำข้าว หลังจากทีเมื่อวานนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นฟ้องนายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด นายชุติชัย สาขากร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และนายกิตินันท์ ธัชประมุข รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน คณะทำงานพิจารณาคดี และมีความเห็นสั่งฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์คดีโครงการจำนำข้าว ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และร่วมกันกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ตามมาตรา 200 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 91ซึ่งศาลได้นัดฟังคำสั่งว่าจะรับคดีไว้เพื่อไต่สวนมูลฟ้องหรือไม่ในวันที่ 6 ต.ค. เวลา 09.00 น.
++นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า การยื่นฟ้องคิดว่าไม่น่าจะทำให้การพิจารณาคดีในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสะดุด นายตระกูล อัยการสูงสุดคนเก่าที่จะเกษียณอายุราชการวันนี้ อัยการสูงสุดคนใหม่คือ นายพงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร จะเข้ามารับหน้าที่ก็ทำหน้าที่ต่อได้ทันที จึงไม่เกี่ยวกัน จะฟ้องก็ฟ้องเป็นสิทธิ
+++ส่วนการเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง 2 ปี นายวิษณุ ชี้แจงว่า คดียังไม่ขาดอายุความ ยังเหลือระยะเวลาอีก 1 ปีครึ่ง คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดในส่วนของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลัง ได้ตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อได้รับรายงาน จะรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะส่งเรื่องต่อไป ที่คณะกรรมการว่าด้วยความรับผิดทางแพ่งโครงการรับจำนำข้าวที่มีอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธาน
+++ส่วนคดีการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี )ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และพวก รวม 21 ราย ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เลื่อนนัดคู่ความฟังคำสั่งเกี่ยวกับการตรวจพยาน หลักฐาน และการกำหนดวันเพื่อไต่สวนพยาน จากเมื่อวานนี้ไปเป็นวันที่ 12 พฤศจิกายน เวลา 09.30 น. เนื่องจากองค์คณะเห็นว่าคู่ความทั้งสองฝ่ายอ้างพยานบุคคลหลายปาก และพยานเอกสารมีจำนวนมาก ฝ่ายจำเลยยื่นหลักฐานเอกสารกว่า 60,000 แผ่น และพยานฝ่ายจำเลยขอนำพยานเข้าสืบ 100 กว่าปาก
+++รองนายกรัฐมนตรีวิษณุ ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยว ข้อง และกระทรวงที่มีข้าราชการถูกพักงาน กรณีอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต ว่า ต้องมีการตั้งกรรมการสอบวินัยข้าราชการที่ถูกพักงาน หากข้าราชการไม่ผิดจะได้คืนตำแหน่ง แต่ถ้าผิดต้องถูกลงโทษ ส่วนข้าราชการที่ส่อทุจริตในรอบ 3 ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรม และหากพูดให้ชัด ๆ ต้องบอกว่ามีแน่
+++เรื่องระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร เวลา 08.30 น. นายชูชาติ กันภัย ทนายความของนายอาเดม คาราดัก ผู้ต้องหาคดีระเบิดเดินทางเข้าเยี่ยมนายอาเดม ที่มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11)
+++พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีนายอ๊อด พยุงวงศ์ หรือนายยงยุทธ พบแก้ว หนึ่งในผู้ต้องหาคดีระเบิดศาลท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ จึงทำให้ตำรวจไม่ตัดประเด็นทางการเมืองทิ้งไปได้ นอกจากประเด็นที่เกิดขึ้นจากการโกรธแค้นที่เจ้าหน้าที่ของรัฐไปทำลายเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์ นายอ๊อดจะเข้ามาเกี่ยวด้วยเหตุผลส่วนตัวก็ได้ หรือด้วยเหตุผลทางการเมืองก็ได้ เรื่องแบบนี้ ต้องเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนต่อไป นายอ๊อดคือกุญแจสำคัญที่จะไขปัญหา
+++ความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ไม่อยากให้ทุกคนตื่นตระหนกกับตัวเลขการส่งออกของไทยที่ติดลบ การส่งออกของไทยก็ติดลบและเป็นบวกสลับกันไปตามทิศทางของโลก แต่ถ้าดูพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากภาคการส่งออก แต่ก็ถูกทดแทนด้วยภาคการท่องเที่ยว ขอให้หันมามองโลกในแง่บวกแล้วสู้ เศรษฐกิจขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของแต่ละคน หากไม่มีความเชื่อมั่นเห็นข่าวที่ไม่ดีขึ้นมา แม้ว่ารัฐบาลจะออกนโยบายดีแค่ไหนมาแก้ไข ก็คงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนเข้าใจ
+++นายสมคิด กล่าวว่า ตอนนี้รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาด้วยการสร้างความเข้มแข็งจากเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยหลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางกลับมาจากสหรัฐฯ จะเรียกประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ(กรอ.) ทันที โดยจะสั่งการให้กรอ.ระดับนโยบายสั่งให้กรอ.จังหวัดลงไปยังชุมชน ให้เน้นเรื่องการพัฒนาชุมชน สร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก และให้เม็ดเงินที่รัฐบาลใส่ลงไปตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะเร่งด่วนได้ลงไปในพื้นที่ภายใน 3 เดือน
+++ในวันนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) จัดพิธีต้อนรับนักท่องเที่ยวคนที่ 22ล้าน ที่เดินทางมาเที่ยวไทยในปีท่องเที่ยววิถีไทย
+++นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า สศค.จะปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยใหม่เดือน ต.ค.นี้แต่ยังเชื่อว่าจีดีพีปี 2558 จะยังขยายตัวได้ร้อยละ 3 ต่อปี เนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐยังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้ดีโดยเฉพาะการลงทุนขนาดใหญ่เบิกจ่ายได้มากขึ้น
+++ความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ ปิดที่ 45.23 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ ปิดที่ 48.23 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) มีกำหนดเผยแพร่สต๊อกเชื้อเพลิง ในวันนี้
+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเล็กน้อย ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกกระตุ้นให้นักลงทุนอยู่ในความระมัดระวัง หลังเผชิญกับความโกลาหลมานานกว่า 1 เดือน ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 47.24 จุด ปิดที่ 16.049.13 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 2.32 จุด ปิดที่ 1,884.09 จุด แนสแดค ลดลง 26.65 จุด ปิดที่ 4,517.32 จุด กังวลว่าสหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้ ยังฉุดให้ราคาทองคำ ปิดลบเล็กน้อย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 4.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,126.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์