ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียกลับมาแล้ว และแย่งซีนการเป็นจุดสนใจของคนทั่วโลกจากประธานาธิบดีบารัก โอบามาของสหรัฐฯได้สำเร็จ ผู้นำรัสเซียได้ปรากฏตัวในที่ประชุมขององค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ในนครนิวยอร์คของสหรัฐฯเมื่อวานนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี เสนอให้มีการต่อต้านการใช้ภาวะผู้นำแทรกแซงกิจการไปทั่วโลกของสหรัฐฯและต้องการจะแย่งบทบาทนำของกลุ่มพันธมิตรที่ทำการปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)มาจากเงื้อมมือของสหรัฐฯ ผู้นำรัสเซียระบุว่าการแทรกแซงและการใช้อำนาจตามอำเภอใจของสหรัฐฯส่งผลตรงข้ามกับที่ตั้งใจไว้ในตะวันออกกลาง เพิ่มเติมว่าบัดนี้ถึงเวลาแล้วที่จะหันไปใช้แนวทางใหม่ๆในการแก้ปัญหา
ที่ผ่านมา ชาติตะวันตกส่วนใหญ่ทราบดีว่ารัสเซียไม่เพียงแต่ต้องการจะสนับสนุนซีเรียในฐานะพันธมิตรเท่านั้น หากแต่ต้องการจะสกัดกั้นการใช้อำนาจและอิทธิพลของสหรัฐฯในตะวันออกกลางด้วย นายปูตินยกตัวอย่างการเข้าไปเกี่ยวข้องของสหรัฐฯในอิรักและลิเบีย ซึ่งผู้นำรัสเซียมองว่าก่อให้เกิดช่องว่างทางอำนาจ เป็นเหตุให้กลุ่มหัวรุนแรงและกลุ่มก่อการร้ายฉวยโอกาสเข้าไปยึดครองพื้นที่ พร้อมทั้งตั้งคำถามทิ้งท้ายว่าถึงวันนี้ สหรัฐฯยังไม่ตระหนักอีกหรือว่าได้ทำอะไรลงไปบ้าง ผู้นำรัสเซียเสนอให้มีการจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีแล้วเสนอให้ยูเอ็นลงมติเรื่องการปรับยุทธศาสตร์ใหม่ในการปราบปรามกลุ่มไอเอส ด้านผู้นำสหรัฐฯเสนอนโยบายที่ส่งเสริมให้ประเทศต่างๆร่วมมือขจัดภัยคุกคามในภูมิภาค เช่น ดึงซาอุดิอาระเบียและจอร์แดนให้เข้าร่วมกับพันธมิตรในการปราบปรามกลุ่มไอเอส แต่แนวทางเช่นนี้ จะเปิดโอกาสให้หลายฝ่ายเช่น อิหร่านและรัสเซีย เข้าไปมีส่วนร่วมแก้ปัญหา ซึ่งอาจจะไม่สอดคล้องกับเป้าประสงค์สุดท้ายของสหรัฐฯ นอกจากนี้ นายโอบามาย้ำนโยบายการทูตว่าด้วยเรื่องการใช้กำลัง ซึ่งนักวิจารณ์หลายคนมองว่านโยบายของเขายิ่งทำให้ประเทศคู่ปรปักษ์ของสหรัฐฯเองฮึกเหิมท้าทายสหรัฐฯหนักขึ้นเรื่อยๆ/15.30 น.