นายกรัฐมนตรีชื่นชมสมาชิกสมัชชาสหประชาชาติ และให้คำมั่นส่งเสริมการรักษาสันติภาพ

29 กันยายน 2558, 09:33น.


ในการที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.เข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติระดับผู้นำ เพื่อรับรองวาระการพัฒนาภายหลัง ปี ค.ศ. 2015 และการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 70 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดเรื่องการรักษาสันติภาพ Peacekeeping Summit 2015 โดยชื่นชมสหรัฐอเมริกา และประเทศต่างๆ ที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในเรื่องที่เป็นบทบาทสำคัญของสหประชาชาติ และให้คำมั่นในการให้การสนับสนุนปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ซึ่งไทยมีส่วนร่วมในปฏิบัติพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกมาตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกสหประชาชาติในปี พ.ศ.2489 รวมมากกว่า 20,000 คน แต่ความขัดแย้งในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไป จึงต้องพิจารณาทบทวนอย่างรอบด้าน เพื่อที่จะรับมือกับปัญหาท้าทายใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นายกรัฐมนตรียังเชื่อมั่นว่า ภารกิจรักษาสันติภาพมีแนวโน้มที่จะมีความเข้มแข็งขึ้น และการป้องกันความขัดแย้ง การรักษาสันติภาพ การเสริมสร้างสันติภาพ และการพัฒนา มีความเชื่อมโยงกัน และทั้งหมดเป็นรากฐานสำหรับสันติภาพอย่างยั่งยืน สันติภาพจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อประชาชนในพื้นที่มีความเป็นอยู่ที่ดี และมีสิทธิทางการเมืองและสังคม และยังต้องส่งเสริมและรักษาสิทธิของสตรีและเด็ก ซึ่งเป็นกลุ่มที่เปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งด้วย



ทั้งนี้จากประสบการณ์ของไทยในการเข้าร่วมภารกิจรักษาสันติภาพที่ติมอร์ - เลสเต และดาร์ฟูร์ในซูดาน เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพของไทยสามารถเข้าถึงชุมชนในพื้นที่ความขัดแย้งได้อย่างทั่วถึง โดยพยายามทำความเข้าใจกับชุมชน และนำทักษะด้านการพัฒนาต่างๆ ไปเผยแพร่ อาทิ การเกษตร และการบริหารจัดการน้ำและดินให้มีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะให้คนท้องถิ่นสามารถหาเลี้ยงชีพได้ด้วยตนเอง และสามารถพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ต่อไปภายหลังความขัดแย้ง ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ของไทยได้รับความไว้วางใจและการยอมรับจากคนท้องถิ่นในการปฏิบัติภารกิจนั้นๆ เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า การเสริมสร้างและผลักดันเรื่องสตรี สันติภาพ และความมั่นคง มีความเชื่อมโยงโดยตรงกับการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และการก่อให้เกิดสันติภาพอย่างยั่งยืน แต่ยังมีสตรีในปฏิบัติการรักษาสันติภาพและในกระบวนการเจรจาสันติภาพทั่วโลกจำนวนน้อย หลักฐานจากรายงานที่ไทยร่วมจัดทำกับสถาบันสันติภาพระหว่างประเทศ (International Peace Institute) ในปีนี้ บ่งชี้ว่า เมื่อสตรีมีบทบาทในกระบวนการสันติภาพ มีความเป็นไปได้สูงขึ้นที่จะสามารถบรรลุความตกลงสันติภาพได้ พร้อมทั้งดำเนินการตามความตกลงนั้นได้



และไทยยืนยันความตั้งใจว่า จะส่งนายทหารฝ่ายเสนาธิการ และหน่วยทหารด้านการพัฒนาที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนและด้านวิศวกรรมการก่อสร้าง เข้าร่วมในปฏิบัติการสันติภาพของสหประชาชาติในอนาคตตามที่ได้รับการร้องขอ และไทยพร้อมที่จะร่วมมือเพิ่มเติมกับสหประชาชาติและประเทศอื่นๆ เพื่อจัดการอบรมเสริมสร้างศักยภาพให้แก่เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพ โดยใช้ประโยชน์จากศูนย์ปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ กองบัญชาการกองทัพไทย



ภาพจาก www.thaigov.go.th

ข่าวทั้งหมด

X