เมืองไทยฯ(1):นายกฯคาดเลือกตั้งกลางปี2560/สหรัฐคงความร่วมมือคอบร้าโกล์ด/คดีระเบิดราชประสงค์และสาทรโยงการเมือง*

29 กันยายน 2558, 07:28น.


ในการที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติระดับผู้นำ เพื่อรับรองวาระการพัฒนาภายหลัง ปี ค.ศ. 2015 และการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 70 และหารือทวิภาคีกับ นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ และยืนยันว่า การดำเนินการต่างๆ ทางการเมืองเป็นไปตามกรอบระยะเวลา เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมไทยและคาดว่าจะสามารถประกาศการเลือกตั้งทั่วไปได้ภายในกลางปี 2560



และในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ มีกำหนดกล่าวคำปราศรัยต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ เป็นเวลา 15 นาที ซึ่งจะเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ ความท้าทาย และความสำเร็จการแก้ปัญหารวมทั้งอนาคตของไทย



ส่วนนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พบหารือกับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และนายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ที่สำนักงานคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ  ซึ่งฝ่ายสหรัฐแสดงความยินดีที่คงความร่วมมือในการซ้อมรบคอบราโกลด์ และพร้อมที่จะให้จัดการหารือเรื่องยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐอเมริกา ครั้งที่ 5 ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมหลังจากว่างเว้นไปหลายปีด้วย



ส่วนคดีระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร  พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นผู้นำในการแถลงผลการสืบสวน โดยมีการออกหมายจับผู้ต้องหา 17 คน ที่ก่อเหตุในลักษณะเป็นขบวนการที่เชื่อมโยงกัน 2 คดี มีคนไทยร่วมขบวนการ 2 คน และจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายอาเดม คาราดัก และนายไมไรลี ยูซุฟู สำหรับคนไทยที่อยู่ในขบวนการ 2 คน คือ น.ส.วรรณา สวนสัน หรือนางไมซาเราะห์ ชาวไทย และนายอ๊อด พยุงวงศ์ หรือ ยงยุทธ พบแก้ว ที่เป็นบุคคลตามหมายจับการวางระเบิดที่สมานเมตตาแมนชั่นปี 2553 และระเบิดมีนบุรีปี 2557 เป็นบุคคลลึกลับไม่มีเลข 13 หลักของบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งพล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า มูลเหตจูงใจก่อเหตุครั้งนี้ มาจากการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐไปทำลายหรือจับกุมเครือข่ายการค้ามนุษย์ และยังมีกลุ่มผู้จ้างวานที่มีจุดประสงค์เดียวกันที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจะขยายผลต่อไป



ทั้งนี้มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดพบว่า นายอ๊อด พบกับ น.ส.วรรณา  ที่ไมมูณา การ์เด้นโฮม และพูดคุยกับนายยูซุฟู หลายครั้งก่อนวันเกิดเหตุระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร



ด้าน นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า จากการประเมินรายละเอียดและผู้เกี่ยวข้องในคดี รวมถึงนโยบายการต่อต้านการค้ามนุษย์ของรัฐบาล มีความเห็นตรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นการกระทำจากผู้ที่เสียผลประโยชน์จากขบวนการค้ามนุษย์ โดยย้ำว่ารัฐบาลจะเดินหน้านโยบายปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันความเสียหายต่อประเทศหลายด้าน ซึ่งที่ผ่านมาไทยทำหน้าที่อย่างถูกต้องและเป็นไปตามข้อผูกพันระหว่างประเทศ



และบ่ายวันนี้ คณะทำงานคดีค้ามนุษย์จะแถลงสรุปสำนวนคดีหลังออกหมายจับผู้ต้องหาไป 153 คน มอบตัว 90 คน หลบหนีอีก 63 คน ส่วนในคดีฟอกเงินออกหมายจับ 79 คน จับกุมแล้ว 39 คน หลบหนี 40 คน



ส่วนความเคลื่อนไหวทางการเมืองนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการทาบทามนายมีชัย ฤชุพันธุ์ สมาชิกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่านอกจากนายมีชัยแล้วยังมีการทาบทามบุคคลอื่นอีก 3-4 คน ซึ่งทุกคนก็มีข้อสงสัยคล้ายกัน



นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยว่า การแต่งตั้งสมาชิก สนช.ให้ครบ 220 คนเป็นสิ่งสำคัญเพราะงานในปีหน้าจะเป็นงานที่หนักมาก แต่ก็ไม่ติดใจว่าจะตั้ง สนช.เข้าเป็น กรธ.หรือไม่



ทั้งนี้นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พรรคได้ข้อสรุปส่งตัวแทนของพรรค จำนวน 2 คน คือ นายนิกร จำนง ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ชทพ. และนายสมศักดิ์ เข้าร่วมเป็น สภาขับเคลื่อนเพื่อการปฏิรูปประเทศ (สปท.)



ในวันนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดตรวจพยานคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับพวก รวม 21 คน



ซึ่งในวันที่ 30 กันยายนนี้ คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดเรื่องโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล จะสรุปตัวเลขความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวและตัวบุคคลที่จะต้องชดใช้ความเสียหายเสนอนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อพิจารณาว่าจะฟ้องร้องผู้ใดบ้างและให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนเท่าใด  ซึ่งก่อนหน้านี้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า บุคคลที่อยู่ในข่ายจะถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ พวกอีก 5-6 คน ซึ่งจะเรียกร้องค่าเสียหายจากแต่ละคนไม่เท่ากัน ส่วนโจทก์ที่จะฟ้องคือกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์



ส่วนที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทินกร ปลอดภัย อายุ 35 ปี แนวร่วม กปปส. เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันขัดขวางการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2557 ซึ่งเป็นวันที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้เป็นวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ทั้งในเขตเลือกตั้งล่วงหน้าในต่างจังหวัดและกทม. โดยใช้โรงเรียนบ้านบางกะปิ ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งที่ 15 และเป็นสถานที่เลือกตั้งกลางนอกเขตจังหวัด โดยจำเลยกับพวกหลายคนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง และกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ได้มาชุมนุมขัดขวางไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ศาลประทับรับฟ้องไว้ และนัดตรวจหลักฐานวันที่ 21 ธันวาคมนี้ ส่วนนายทินกร จำเลย ศาลให้ปล่อยชั่วคราวตามที่จำเลยยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดประกันตัว โดยศาลตีราคาประกัน 1 แสนบาท



นอกจากนี้ พนักงานอัยการพิเศษ ยังได้ยื่นฟ้องแนวร่วม กปปส.อีก 7 คนในความผิดฐานร่วมกันขัดขวางการเลือกตั้ง และความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการฉุกเฉิน พ.ศ.2548 กรณีร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมไปขัดขวางการเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้ง โดยคดีนี้ศาลได้ประทับรับฟ้องเช่นกัน

ข่าวทั้งหมด

X