+++เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 เชิญตัวพยานประมาณ 6 คน จากสถานีรถไฟหัวลำโพง และคาดว่าจะเดินทางมาจากภาคใต้ มาสอบปากคำที่ห้องสอบสวนความมั่นคง กองบัญชาการตำรวจนครบาล เกี่ยวกับเหตุระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ และที่ท่าเรือสาทร คาดว่า พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมพนักงานสอบสวน จะซักถามข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ โดยเฉพาะเส้นทางการหลบหนี เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในสำนวนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
+++ส่วนการตรวจสอบหนังสือเดินทาง ที่ระบุว่าเป็นของประเทศตุรกี ที่ตรวจยึดได้จากพูลอนันต์ อพาร์ทเม้นท์ นายนรชิต สิงหเสนี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมประสานงานและให้ความร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูต หรือกระทรวงการต่างประเทศของประเทศอื่น หากมีการร้องขอ ทางการตุรกี ได้ติดต่อผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอังการา และสถานทูตตุรกีประจำประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
+++ส่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือขอให้กระทรวงการต่างประเทศ ยกเลิกหนังสือเดินทางของนางวรรณา สวนสัน หนึ่งในผู้ต้องหาเหตุการณ์ระเบิดที่ราชประสงค์ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่ามีการทำหนังสือจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาหรือไม่ อย่างไรก็ตามหากมีการประสานงานมา ก็พร้อมพิจารณาตามระเบียบเงื่อนไข และหากเห็นว่าเข้าเกณฑ์สมควรถูกยกเลิกหนังสือเดินทาง ก็สามารถประกาศให้ยกเลิกได้ทันที สอดคล้องกับ นายธงชัย ชาสวัสดิ์ อธิบดีกรมการกงสุล กล่าวว่า ยังไม่ได้รับเรื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการเพิกถอนพาสปอร์ต นางวรรณา เช่นกัน
มีรายงานอ้างถึง พี่ชายของนางวรรณา ว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นางวรรณา ได้ติดต่อกับครอบครัวที่ประเทศไทยแล้วผ่านโปรแกรมแชทไลน์ โดยระบุว่า น้องสาวปลอดภัยและสบายดี จะเดินทางกลับมาประเทศไทยแน่นอน เพื่อมามอบตัวและต่อสู้คดี แต่ยังไม่รู้วันและเวลาที่แน่ชัด
+++กรณีที่มีชายแปลกปลอมเข้ามาที่กรมพระธรรมนูญ เมื่อวันที่ 25 ก.ย. มีชายต้องสงสัยเป็นชาวต่างชาติลักษณะแขกขาว สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน สวมแว่นกันแดด สะพายเป้สีดำ สวมรองเท้าผ้าใบ เดินเข้ามาภายใน ตรงไปที่ลิฟต์ก่อนที่จะกดขึ้นไปที่ชั้น 4 และเดินขึ้นไปบนดาดฟ้าประมาณ 1-2 นาที จากนั้นกลับมาที่ชั้น 4 เดินท่าทางมีพิรุธ สลับถอดและใส่แว่น หลังจากนั้นเดินวนลงมาที่ชั้น 3 เดินไปทางซ้ายของอาคาร และเดินวนมาทางขวาของอาคาร ก่อนจะเดินกลับมากดลิฟต์ลงมาที่ชั้น 1 แล้วรีบเดินออกนอกบริเวณศาลไปทันที โดยใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 8-10 นาที พล.ต.คงชีพ ตันตระพานิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของกรมพระธรรมนูญเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกล้องวงจรปิดภายนอกพบว่าชายคนดังกล่าวเหมือนนักท่องเที่ยว มาจากทางฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมมศาสตร์ และเดินมาตามทาง ก่อนจะมาถึงบริเวณศาลทหาร
+++สำหรับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย กรมพระธรรมนูญ มีมาตรการดูแลสถานที่อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ทั่วบริเวณศาลกว่า 10 จุดในการดูแลรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่อีโอดี ตรวจสอบทุกชั้นอย่างละเอียด ไม่พบสิ่งผิดปกติ หรือสิ่งของที่ถูกวางไว้ในศาล เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นนักท่องเที่ยวเดินมาเข้าห้องน้ำ ที่โดยปกติมักจะมีบุคคลภายนอก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มาสักการะศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครมาขอเข้าห้องน้ำบริเวณชั้นล่างอยู่เป็นประจำ นอกจากนี้โดยปกติศาลทหารกรุงเทพฯ ยังเปิดให้บุคคลภายนอกเข้ามารับฟังการพิจารณาคดีตามปกติอยู่แล้ว
+++วันนี้ ศาลทหารกรุงเทพ กรมพระธรรมนูญ กระทรวงกลาโหม นายชูชาติ กันภัย ทนายความของนายอาเดม คาราดัก ผู้ต้องหาคดีวางระเบิดแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร ได้เดินทางมายื่นเอกสารเพื่อขอเป็นทนายความให้แก่นายอาเดม คาราดัก หลังจากที่ถูกศาลทหารกรุงเทพ ออกหมายจับ นายชูชาติ กล่าวว่า เพื่อขอเป็นทนายความให้แก่นายอาเดม คาราดัก ศาลทหาร ได้อนุญาตให้เป็นทนายความ รวมถึงให้อนุญาตเข้าเยี่ยมนายอาเดม คาราดัก ได้ที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี ภายในกองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 11 (พันร.มทบ.11) จากนี้จะประสานกับสถานทูตตุรกีเพื่อส่งเจ้าหน้าที่เข้าพบนายอาเดม คาราดัก พร้อมกัน คาดว่าจะใช้เวลา 1-2 วัน ในการดำเนินการประสานจึงคาดว่าจะสามารถเข้าเยี่ยมนายอาเดม คาราดัก ได้
+++นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง เรื่องการทาบทามบุคคลมานั่งในตำแหน่งประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่าได้เตรียมชื่อผู้ที่จะมาทำหน้าที่ประธาน กรธ.ไว้ประมาณ 4 คน ซึ่งชื่อทั้งหมดจะส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาตัดสินใจ ขณะเดียวกัน ได้ทาบทามผู้ที่จะมาเป็น กรธ.ไว้ประมาณ 20-30 คน ซึ่งบางส่วนตอบรับแล้ว จะต้องส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ เลือกเช่นกัน
+++ตามที่ ศาลจังหวัดวิเชียรบุรี ยกฟ้องสำนวนที่ตำรวจจับชายเมาในขณะขี่จักรยาน โดยให้เหตุผลว่าการกระทำดังกล่าวไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรมาตรา 43 (2) คือไม่ใช่เป็นการเมาสุราในขณะขับขี่รถ นายโกศลวัฒน์ อินทุจรรยงค์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด มองว่า ศาลชั้นต้นพิพากษาถูกต้องตามตัวบทกฎหมายแล้ว เพราะรถจักรยานปั่น ไม่ใช่รถในความหมายของมาตรา 43 (2) ประกอบมาตรา 160 แต่คนที่เมาแล้วขี่จักรยานไปตกคูน้ำ ตกไหล่ทาง หรือถูกเฉี่ยวชนและบุคคลนั้นมีครอบครัวต้องอุปการะพ่อแม่หรือบุตร ก็จะมีผลเดือดร้อนตามมา ดังนั้นควรแก้ไข พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ให้รวมถึงการขี่จักรยานด้วย รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เชื่อว่า อัยการอาจจะรีบฟ้องโดยไม่ได้พิจารณาอย่างละเอียด อันนี้ต้องยอมรับในข้อบกพร่อง โดยฟ้องไปทั้งที่รู้ว่าบทบัญญัติดังกล่าวหมายถึงรถ แต่อย่าลืมอัยการต้องพิจารณาสำนวนคดีจำนวนมากอาจดูไม่ทัน ประกอบกับผู้ต้องหารับสารภาพจึงต้องเร่งฟ้องให้ทันภายในกำหนดเวลาของกฎหมาย ประเด็นต่อมา คือ ตำรวจที่ด่านไม่มั่นใจในตัวบทบัญญัติ เลยทดลองจับดูและอัยการก็ฟ้องไปเพื่อให้มีการพิสูจน์ไปเลยในศาลว่า การขี่รถจักรยานในขณะเมาสุราเป็นความผิดหรือไม่ ถ้าศาลว่าไม่ผิดต่อไปก็คงจะไม่จับ ได้หารือกับนพ.แท้จริง ศิริพานิชย์ ประธานมูลนิธิเมาไม่ขับ เพื่อหาทางยกร่างกฎหมายเรื่องนี้ให้ครอบคลุมและชัดเจนว่าปั่นจักรยานก็เข้าองค์ประกอบความผิด
+++การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดที่ 1,352.13 จุด ลดลง 24.70 จุด มูลค่าการซื้อขาย 28,592.05 ล้านบาท ดัชนีลดลงสอดคล้องตลาดภูมิภาค สาเหตุหลักมาจากธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ยืนยันขึ้นดอกเบี้ยปีนี้แน่นอน รวมถึงข่าวร้ายภายในทั้งสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ปรับความน่าเชื่อถือของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) อยู่ในขั้นติดลบ เพราะปัญหาการแบกรับหนี้ของ บริษัทสหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ตัวเลขการส่งออกไทยเดือนส.ค.ติดลบต่อเนื่องกดดันบรรยากาศการลงทุน
+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ลดลง 235.40 จุด ปิดที่ 17,645.11 จุด ฮั่งเส่ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 90.34 จุด ปิดที่ 21,186.32 จุด เซี่ยงไฮ้ ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 8.41 จุด ปิดที่ 3,100.76 จุด
+++เหตุระทึกขวัญที่มัลดีฟส์ สำนักข่าวบีบีซี รายงานอ้างนายโมฮัมเหม็ด ชารีฟ รัฐมนตรีในรัฐบาลมัลดีฟส์ว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้นบนเรือลำหนึ่งที่มีประธานาธิบดีอับดุลลา ยามีน วัย 56 ปีของมัลดีฟส์ เดินทางมาด้วยขณะกลับจากการร่วมพิธีฮัจญ์ในซาอุดิอาระเบียพร้อมคณะ แรงระเบิดทำให้ผนังเรือเสียหาย เศษซากอิฐหล่นลงมา เหตุเกิดขณะเรือรับผู้นำมัลดีฟส์ พร้อมคณะจากสนามบินแห่งในกรุงมาเล เพื่อไปเข้าเทียบท่าเรือหลักแห่งหนึ่งในเมืองหลวง นายยามีน ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่มีคนบาดเจ็บ 3 คนคือ นางฟาธิมัธ อิบรอฮีม ภรรยา บาดเจ็บที่บริเวณหลัง อาการไม่ร้ายแรงและคนอีก 2 คน คือเจ้าหน้าที่คุ้มกันความปลอดภัย 1 คนและเจ้าหน้าที่พิธีการทูต 1 คน ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เบื้องต้นตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง อยู่ระหว่างการสอบสวน และยังไม่ทราบชัดเจนว่าเป็นอุบัติเหตุหรือการพยายามลอบสังหารผู้นำมัลดีฟส์ หลังเกิดเหตุ ทางการมัลดีฟส์ สั่งเพิ่มการดูแลความปลอดภัยทั่วทั้งเมืองหลวง
CR:แฟ้มภาพ