นายกรัฐมนตรีย้ำเจตจำนงการเมืองไทยร่วมขับเคลื่อนพัฒนาที่ยั่งยืนโลกใน15ปี

ในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงในการประชุม UN Summit to adopt the Post-2015 Development Agendas เพื่อย้ำเจตจำนงทางการเมืองของไทยในการร่วมขับเคลื่อนวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลกสำหรับ 15 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชม วาระการพัฒนาใหม่ที่ให้ความสำคัญกับคน โดยถือว่าคนเป็นหัวใจของการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุด เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป เพราะมนุษย์คือสาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงของมนุษยชาติ นอกจากนี้แล้ว โลกยังมีความท้าทายเร่งด่วน คือ ความเหลื่อมล้ำ เพราะความยากจน การโยกย้ายถิ่นฐาน การแย่งชิงทรัพยากร เป็นปัญหาพื้นฐานของปัญหามากมาย และยังเป็นปัจจับบ่มเพาะความรุนแรงในสังคม โดยการขจัดความเหลื่อมล้ำ ต้องเริ่มจากการวางกรอบกติกาของสังคมให้มั่นคงและเป็นธรรม ให้ทุกคนมีความเสมอภาคและมีโอกาสเข้าถึงทรัพยากร และการบริการรัฐอย่างเท่าเทียม จำเป็นต้องมีกฎหมายที่มีประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานของภาครัฐ ด้วยหลักธรรมาภิบาล ความรับผิดชอบ ความโปร่งใส รวมทั้งการขจัดความทุจริตและระบบอุปถัมภ์ ซึ่งไทยได้มีการออกกฎหมายหลายฉบับ เพื่อสร้างความทัดเทียม เช่น กฎหมายคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง กฎหมายความเท่าเทียมระหว่างเพศ นอกจากนี้รัฐบาลยังให้การคุ้มครองทางสังคมไม่เฉพาะคนไทย แต่ยังรวมถึงแรงงานต่างด้าว โดยไทยจัดให้มีการลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเพื่อเข้าสู่ระบบการจ้างงานมากกว่า 1 ล้าน 6 แสนคน ที่ช่วยป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์

และในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีระบุว่า เมื่อประชาชนเข้มแข็ง ประเทศและโลกก็จะเข้มแข็งไปด้วย ในอีก 15 ปีข้างหน้า ความเหลื่อมล้ำ และความยากจนจะลดน้อยลง ประเทศไทยพร้อมร่วมมือกับทุกประเทศและสหประชาชาติ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อให้ทุกคนเข้มแข็ง อยู่รวมกันอย่างผาสุก มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ไปด้วยกัน

..

ภาพจาก thaigov.go.th