*ตร.พอใจการทำแผน มั่นใจหลักฐานมัด2ผตห.ขบวนการนำคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย*

26 กันยายน 2558, 17:26น.


การทำแผนประกอบคำรับสารภาพของสองผู้ต้องหา ร่วมกันก่อเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ นายอาเดม คาราดัก และ นายเมียไรลี ยูซุฟู บริเวณม้านั่งริมคลองผดุงกรุงเกษม ระหว่างสะพานที่ 1และ2 ด้านข้างหัวลำโพง คือจุดที่นายยูซุฟู นำกระเป๋าบรรจุวัตถุระเบิดมาส่งให้เพื่อให้นายคาราดัก นำไปก่อเหตุที่แยกราชประสงค์



การทำแผนประกอบคำรับสารภาพเป็นการจำลองเหตุการณ์จริงเมื่อวันที่ 17 ส.ค. ท่ามกลางการคุมเข้มของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยคอมมานโด เจ้าหน้าที่ทหาร ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ฯลฯ การทำแผนในจุดนี้ เจ้าหน้าที่คุมผู้ต้องหาสองคนมาทำแผนพร้อมกัน เนื่องจากเป็นจุดที่ผู้ต้องหาทั้งคู่นัดหมายมาเจอกัน  นายคาราดัก สวมเสื้อสีเหลือง ที่ใส่ในวันเกิดเหตุ มีสีหน้าเรียบเฉย ขณะที่ นายยูซุฟู มีท่าทีที่ผ่อนคลายกว่า บางช่วงยังสื่อสารกับล่าม และเจ้าหน้าที่ที่มาร่วมดำเนินการในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจากทำแผนจุดนี้เสร็จแล้วจะควบคุมตัวนายยูซุฟู ไปที่กองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11





ส่วนนายคาราดัก คุมตัวไปทำแผนในจุดอื่นๆต่อไป คือบริเวณซอยเจริญนคร 61 และท่าเรือโรงแรมเจ้าพระยาปรินซ์เซส จุดที่ผู้ต้องหาให้การว่านำถุงบรรจุวัตถุระเบิดมาวางไว้บริเวณท่าเรือ จากนั้นเดินทางไปก่อเหตุที่แยกราชประสงค์  จากคำให้การของนายคาราดัก บอกว่า หลังก่อเหตุเสร็จได้ติดต่อชายเสื้อฟ้าให้มาเขี่ยระเบิดที่วางไว้ตรงท่าเรือ และเกิดเหตุระเบิดตรงท่าเรือสาทร





พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) ที่ควบคุมการทำแผน แสดงความพอใจเนื่องจากพยานหลักฐานข้อมูลต่างๆ มัดแน่นทำให้ผู้ต้องหาจนมุมรับสารภาพ ในขั้นตอนการทำสำนวนของพนักงานสอบสวนมีความแน่นหนา มีความมั่นใจ ต้องติดตามดูในชั้นอัยการ และต้องติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการคนอื่นๆเพิ่มอีกด้วย



ด้านพล.ต.ท.ประวุฒิ  ถาวรศิริ   ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกับจส.100ว่า จากการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันนี้ ทำให้คดีมีความคืบหน้า เจ้าหน้าที่หาข้อมูลพยานหลักฐานเพื่อเชื่อมโยงทำให้ผู้ต้องหารับสารภาพ และต้องขยายผลต่อ เนื่องจากผู้ต้องหากลุ่มนี้ทำผิดกฎหมายเป็นกลุ่มที่ลักลอบนำคนเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ไม่ได้พุ่งเป้าว่าเป็นคนกลุ่มไหน เจ้าหน้าที่จะใช้คดีนี้ เป็นแนวทางปรับปรุงระบบการตรวจคนเข้าเมืองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในส่วนผู้ต้องหา นายคาราดัก อายุ 40 ปีแล้ว ถือว่ามีประสบการณ์ พูดภาษาอังกฤษได้ แต่ในตอนแรกไม่ยอมพูด จนเจ้าหน้าที่ต้องใช้ทุกทางเพื่อให้ผู้ต้องหาให้การในการก่อเหตุ



ผู้สื่อข่าว:พนิตา สืบสมุทร  

ข่าวทั้งหมด

X