โฟล์กสวาเกน บริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน ประกาศแต่งตั้งนายมัตเทียส มูลเลอร์ เป็นประธานกรรมการบริหารบริษัทคนใหม่ แทนนายมาร์ติน วินเทอร์คอร์น ที่ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และราคาหุ้นของโฟล์กสวาเกนตกลงถึงร้อยละ 30 หลังโฟล์กสวาเกน ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก ยอมรับว่าได้มีการใช้เทคนิคพิเศษเพื่อเปลี่ยนผลการทดสอบวัดระดับการปล่อยมลพิษของรถยนต์ในสหรัฐฯ หลังสำนักงานป้องกันสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ หรืออีพีเอ ยื่นเรื่องต่อศาลขอให้ศาลมีคำสั่งให้บริษัทเรียกคืนรถยนต์ในเครือโฟล์กสวาเกน จำนวน 4 แสน 82,000 คัน ซึ่งเชื่อว่าเป็นรุ่นและปีที่ผลิตโดยมีการติดตั้งอุปกรณ์พิเศษในการดัดแปลงค่าการปล่อยมลพิษในระหว่างการทดสอบเพื่อขอรับอนุญาตจำหน่ายในสหรัฐฯ
ผู้บริหารคนใหม่ของโฟล์กสวาเกนกล่าวหลังเข้ารับตำแหน่งว่าภารกิจเร่งด่วนที่เขาต้องดำเนินการคือการเรียกความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา ด้วยการดำเนินการอย่างโปร่งใส และการเร่งสรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบนพื้นฐานข้อเท็จจริง
นอกจากนั้น ยังประกาศเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการทำงานของบริษัทด้วย ซึ่งรวมถึงการให้อำนาจการตัดสินใจแก่สำนักงานในภูมิภาคต่างๆ มากขึ้น และเพิ่มมาตรฐานการผลิตรถยนต์ เพื่อให้ผู้ใช้รถยนต์โฟล์กสวาเกนกว่า 80 ล้านคันทั่วโลก รู้สึกมั่นใจและได้รับความพึงพอใจสูงสุด
ด้านกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เตรียมเข้าร่วมกับอีพีเอ ในการสอบสวนความผิดของโฟล์กสวาเกน โดยยืนยันว่า กลโกงในการปกปิดการปล่อยมลพิษในรถยนต์โฟล์กสวาเกนส่งผลกระทบต่อสุขภาพของชาวอเมริกัน และมลพิษทางอากาศในสหรัฐฯ อย่างมาก ขณะที่บรรดาสำนักงานขนส่งในหลายประเทศ รวมทั้งเยอรมนีและอังกฤษ ได้เริ่มกระบวนการสอบสวนโฟล์กสวาเกนที่อาจกระทำความผิดในลักษณะเดียวกับในสหรัฐฯ เนื่องจากหลังมีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้น โฟล์กสวาเกนยอมรับว่ามีรถยนต์ทั่วโลกรวม 11 ล้านคันที่มีการใช้อุปกรณ์พิเศษเพื่อดัดแปลงค่าการปล่อยมลพิษ โดยในจำนวนนี้เป็นรถยนต์ที่จำหน่ายในเยอรมนีจำนวน 2,800,000 คัน
ล่าสุด ทางการสวิตเซอร์ได้ประกาศห้ามจำหน่ายรถยนต์โฟล์กสวาเกน รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลในประเทศเป็นการชั่วคราว เพราะเชื่อว่ารถยนต์รุ่นดังกล่าวมีการใช้อุปกรณ์พิเศษดัดแปลงค่าการปล่อยมลพิษในรถยนต์ และการประกาศดังกล่าวจะกระทบต่อรถยนต์โฟล์กสวาเกนที่เตรียมจำหน่ายในสวิตเซอร์แลนด์กว่า 1แสน 80,000 คัน
ทีมข่าวต่างประเทศ
CR:AFP