*โฆษกสตช.แถลง ศาลทหารออกหมายจับ 17 ผตห.ระเบิดราชประสงค์ โทษสูงสุดประหารชีวิต *

หลังการประชุมเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์และท่าน้ำสาธร พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศาลทหารอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทรเพิ่มเติม จำนวน 17 คน โดยมีผู้ที่ถูกออกหมายจับใหม่ จำนวน 3 คน คือ นายอาลินูร์, นายมานาย มาหมัด อิสเมล  ผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่ซื้อซิมโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นหมายเลขที่จุดระเบิดที่แยกราชประสงค์ และนายอ๊อด พยุงวงศ์ ผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่ซื้อซิมโทรศัพท์ ส่วนอีก 14 คน ได้แก่ นายฮาเหม็ด โบซองแลน ผู้ต้องหาที่พักอาศัยที่พูลอนันต์อพาร์ทเม้นต์ ห้อง404, นายอาลิ โจรัน ผู้ต้องหาที่พักอาศัยที่พูลอนันต์อพาร์ทเม้นต์ ห้อง412, ชาวตุรกีไม่ทราบชื่อ ผู้ต้องหาที่พักอาศัยที่พูลอนันต์อพาร์ทเม้นต์ 412, นายไมไรลี ยูซูฟู ผู้ต้องหาที่นำระเบิดไปให้กับชายเสื้อเหลือง, นายอับดุลเลาห์ อับดุลเลาห์ มาน เพื่อนของสามีนางวรรณาและพักอาศัยในไมมูณาอพาร์ทเม้นต์, นายอับดุล ตาวาบ ผู้ว่าจ้างและจัดหาห้องพัก, นางวรรณา สวนสัน ผู้เช่าห้องพักที่ไมมูนาการเด้น, นายอาเหม็ด ดาวูโตกู สามีนางวรรณา, นายซูฟุก ผู้ต้องหาพักอาศัยที่ไมมูณา การเด้นโฮม , นายอิซาน ผู้ต้องหาที่พักอาศัยไมมูณา การ์เด้นท์โฮมห้องที่ 9106, ชายไม่ทราบชื่อ ที่ซื้ออุปกรณ์ ท่อเหล็กที่ใช้ประกอบระเบิด, ชายไม่ทราบชื่อ ซื้ออาหารที่พักเข้าห้อง 412ที่พูลอนันต์อพาร์ทเม้นต์,นายบิลบาด มูฮะหมัด หรือ บิลลาดเติรก์ หรือนายอาเดม คาราดัค ชายเสื้อเหลือง มือวางระเบิดแยกราชประสงค์ และสุดท้าย คือ นายซูแบร์ ชายเสื้อผ้าที่วางระเบิดท่าเรือสาธร พักห้อง412 พูลอนันต์อพาร์ทเม้นต์ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 14 คนนี้จะถูกถอนหมายจับจากศาลต่างๆที่ได้ออกหมายจับไปก่อนหน้านี้มาที่ศาลทหาร เนื่องจากเป็นคดีที่มีวัตถุระเบิดและยุทธภัณฑ์ ฆ่าคนตายโดยใช้ระเบิดและ ละเมิดคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งโทษสูงสุดคือประหารชีวิต

โดยศาลทหารอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันทำระเบิดจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, แล้วร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมการพกพาอาวุธระเบิดไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ในวันพรุ่งนี้จะเบิกตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คือ นายอาเดม คาราดัก หรือ บิลาล โมฮำเหม็ด และนายเมียไรลี ยูซุฟู  มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในสองจุดหลักที่เชื่อมโยงกับเหตุระเบิดร่วมกัน และในจุดที่นายเมียไรลี นำโทรศัพท์ มือถือที่เชื่อมโยงกับเหตุไป โยนทิ้งที่คลองแสนแสบ ซึ่งจะเริ่มทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณแยกราชประสงค์ และบริเวณ สถานีรถไฟหัวลำโพง ก่อนจะแยกทำแผนในจุดอื่นๆ  ตั้งแต่ เวลา 11.00น.