+++สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงประกอบพิธีเปิดอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ในวันเสาร์ที่ 26 กันยายน นี้ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.กระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการฝึกซ้อม การแสดงแสง สี เสียง และสื่อผสมภายใต้ชื่อ อุทยานราชภักดิ์ เทิดจงรักสัตตปฐพี มีคณะนายทหารและประชาชนร่วม 10,000 คน เข้าร่วมชม สำหรับพิธีซ้อมการแสดง แสง สี เสียง เป็นการแสดงเทิดพระเกียรติของสมเด็จพระมหาบูรพกษัตริย์แห่งสยาม และบทสรุปทั้ง 7 พระองค์ ประกอบด้วย พ่อขุนรามคำแหงมหาราช, สมเด็จพระนเรศวรมหาราช, สมเด็จพระนารายณ์มหาราช, สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช,พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช, พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ใช้กำลังพลทั้งสิ้น 2,300 นาย จากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ จ.ชลบุรี นักเรียนและนักศึกษา ม้าและช้างศึก จากวังช้างปางพะเนียด จ.พระนครศรีอยุธยา
+++ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมคณะเดินทางถึงนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา แล้วเมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 24 กันยายน ตามเวลาในสหรัฐฯ หรือเมื่อคืนนี้ ตามเวลาในประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ (ยูเอ็นจีเอ) สมัยที่ 70 ซึ่งเป็นปีฉลองครบรอบ 70 ปีของการก่อตั้งสหประชาชาติ พล.อ.ประยุทธ์ มีกำหนดจะเข้าร่วมกิจกรรมมากมายที่ถูกจัดขึ้นอย่างแน่นขนัดตลอดสัปดาห์นี้ที่ มีผู้นำประเทศสมาชิกมาเข้าร่วมมากกว่า 150 ประเทศจากจำนวนชาติสมาชิกสหประชาชาติ 193 ประเทศ วันนี้ นายกฯ จะเป็นประธานการประชุมทีมประเทศไทยในสหรัฐฯก่อนร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ
+++พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่ฮิวแมนไรต์ส วอตช์ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ยูเอ็น กดดัน พล.อ.ประยุทธ์ เร่งจัดการเลือกตั้งโดยเร็วว่า รัฐบาลชุดนี้มีเจตนารมณ์สำคัญ คือการฟื้นฟูและวางรากฐานระบอบประชาธิปไตย ให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้นในอนาคต ไม่ต้องการสร้างระบอบประชาธิปไตยแบบฉาบฉวย หรือกล่าวอ้างการเลือกตั้ง เป็นทางออกอย่างเดียวในการแก้ปัญหาของประเทศ แต่ต้องการใช้โอกาสนี้ ปฏิรูปทุกภาคส่วน ทุกมิติ ให้เดินคู่ขนานไป เวทีสมัชชาสหประชาชาติจะเป็นหนึ่งในเวทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ส่งสัญญาณออกไปถึงนานาชาติต่อกระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยของรัฐบาลว่าได้เดินตามโรดแมปที่วางไว้อย่างเคร่งครัด ชัดเจน
+++ความคืบหน้าในการทาบทามนายมีชัย ฤชุพันธุ์ สมาชิกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาเป็นประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หลังจากการพูดคุยทาบทาม นายมีชัย ระบุว่า ขอกลับไปคิดก่อน เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ และไม่อยากเข้ามาอยู่ในความวุ่นวาย หากนายมีชัย ปฏิเสธจะทาบทามใครแทน นายวิษณุกล่าวว่า ขอไม่พูด มีรายชื่อไว้อยู่แล้วเป็นชื่อของผู้ใหญ่ เนื่องจากไม่ได้เป็นคนเลือกเพียงคนเดียว มีคนอื่นๆ เป็น ผู้ร่วมแสวงหาเช่นเดียวกัน และในส่วนตัวคนที่เลือกนั้นจะซ้ำกับคนอื่นๆ หรือไม่ก็ยังไม่รู้ แล้วจากนั้นจะเอารายชื่อมารวมกันเพื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้ง สำหรับนาย มีชัยมีเวลาให้ตัดสินใจก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะกลับจากการประชุมยูเอ็นในวันที่ 1 ตุลาคม
+++สำหรับ กรธ. ก็ได้พบกับบางคน ถ้าจะพูดกันจริงๆ ก็ถือว่าได้จำนวนมากแล้ว แต่บางคนก็ยังมีเงื่อนไขซึ่งกันและกันอยู่ และยังมีคนที่ขอเคลียร์เรื่องคุณสมบัติ ขณะที่บางคนก็คิดถึงเรื่องความเร่งรัดของเวลา จึงต้องคิดถึงเวลาของตัวเองว่าเพียงพอหรือไม่ และเขาต้องตัดสินใจว่าจะลาออกจากงานเก่าของเขาด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ไม่สามารถบอกได้ว่ามีการทาบทามเป็นจำนวนเท่าไร แต่ถือว่าเกินจำนวน 21 คนไปแล้ว เพราะใช่ว่าเขาจะรับทุกคน
+++ วันนี้ มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อเนื่อง เร่งรัดการพิจารณากฎหมายสำคัญ เมื่อวานนี้ ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่) พ.ศ. .... ควบคู่กับร่าง พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... พร้อมกับให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นพิจารณา จำนวน 21 คน การเสนอแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นการปรับปรุงกระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริงของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) ให้สอดคล้องกับสภาพการณ์และรูปแบบของการทุจริตที่มีความซับซ้อนขึ้น โดยมีการปรับปรุงโครงสร้างของคณะกรรมการ ปปท. ทั้งวิธีการได้มา องค์ประกอบ คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม และการพ้นจากตำแหน่ง พร้อมทั้งกำหนดให้ ปปท.เป็นส่วนราชการที่ไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี หรือกระทรวง ทบวง เพื่อให้เกิดความเป็นอิสระในการปฏิบัติงาน จึงเป็นเหตุให้ต้องแก้ไข พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.2551 เพื่อให้เกิดความสอดคล้อง
+++คดีระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร จากข่าวนาย อาเดม คาราดัก หรือบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ที่พูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา รับสารภาพคือชายเสื้อเหลืองผู้วางระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ ยังไม่อยากให้สรุปว่ากระแสข่าวดังกล่าวเป็นความจริงจนกว่าจะมีพยานหลักฐานสอดคล้องกัน เนื่องจากตั้งแต่จับกุมตัวนายอาเดมมา เมื่อเจ้าหน้าที่สอบปากคำแต่ละครั้งนาย อาเดมให้การไม่ตรงกันเลย จึงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ได้หลักฐานที่แน่ชัดจนมัดตัวว่า นายอาเดมคือชายเสื้อเหลืองจริง จึงจะออกมาพูดยืนยันได้ชัดเจน แต่มีความเป็นไปได้ว่าที่นายอาเดมรับว่าเป็นชายเสื้อเหลืองนั้นอาจเป็นเพราะตำรวจเจอข้อมูลหรือพยานหลักฐานที่ไปยันจนทำให้ต้องยอมรับในพยานหลักฐานเหล่านั้น ถือเป็นภาระอันหนักหน่วงของตำรวจ
+++ขณะที่นายชูชาติ กันภัย ทนายความของนายอาเดม กล่าวว่า นายอาเดมปฏิเสธมาโดยตลอดว่าไม่ใช่ชายเสื้อเหลือง ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะเป็นเพียงกระแสข่าว นายอาเดมมีอาการป่วย และแพทย์อยู่ระหว่างตรวจรักษาจากอาการไข้หวัดและความดันสูง ทั้งนี้จะเดินทางเข้าไปพูดคุยกับนายอาเดมในวันจันทร์ที่ 28 กันยายนนี้ ที่ มทบ.11 เวลา 08.00 น. เพื่อพูดคุยถึงกรณีความชัดเจนในการรับสารภาพแต่ละครั้งของนายอาเดม หลังตำรวจบอกว่านายอาเดมให้การแต่ละครั้งมีการเปลี่ยนแปลงคำให้การตลอด รายงานระบุว่า นายอาเดมเกิดอาการปวดท้องระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำชั่วคราว มทบ.11 เขตดุสิต โดยแพทย์ประจำ มทบ.11 มาตรวจแล้วคาดว่าอาจเกิดอาการไส้ติ่งอักเสบ ดังนั้น ผู้อำนวยการเรือนจำชั่วคราวรายงานไปยัง ผู้บัญชาเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อประสานไปยังผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เข้ามาตรวจร่างกายโดยละเอียด คาดว่าจะเป็นไส้ติ่งจริง
+++ความคืบหน้าติดตามจับผู้ต้องหาคดีค้าโรฮิงญา พล.ต.ต.พุทธิชาติ เอกฉันท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (รอง ผบช.ภ.9) มอบหมายให้แต่ละพื้นที่รับผิดชอบผู้ต้องหาตามหมายจับเป็นกลุ่มๆ ไป ทั้งในส่วนของตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจภูธรภาค 9 และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง มีผู้ต้องหาบางส่วนที่มีการติดต่อขอเข้ามอบตัว ส่วนใหญ่จะยื่นเงื่อนไขในการขอรับการประกันตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่รับเงื่อนไข พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่เยี่ยมชาวโรฮิงญา ซึ่งอยู่ในความคุ้มครองของกระทรวง เนื่องในวันสำคัญของชาวมุสลิมวันฮารีรายอ ซึ่งตรงกับวันที่ 24 กันยายน พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯรับชาวโรฮิงญา เข้ามาอยู่ในความคุ้มครองดูแลในพื้นที่หลายจังหวัด ปัจจุบันมีชาวโรฮิงญา จำนวนทั้งสิ้น 328 คน แบ่งเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์จำนวน 193 คน และลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายจำนวน 135 คน โดยชาวโรฮิงญาทั้งหมดผ่านกระบวนการคัดแยกผู้เสียหาย และให้กำลังใจชาวโรฮิงญา 29 คน เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ซึ่งทั้งหมดกำลังจะเดินทางไปตั้งถิ่นฐานใหม่ ที่สหรัฐอเมริกา ในฐานะประเทศที่สาม ในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้
+++บรรยากาศวันฮารีรายอใน จ.นราธิวาส เป็นไปอย่างคึกคัก สำหรับวันฮารีรายอ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นวันหยุดราชการ 1 วัน เพื่อให้ชาวมุสลิมได้ประกอบศาสนกิจตามหลักศาสนา นายสุรพล กำพลานนท์วัฒน์ นายกสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เทศกาลฮารีรายอปีนี้ ห้องพักโรงแรมย่านตัวเมืองถูกจองเต็มทั้งหมด คาดว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในเมืองหาดใหญ่ ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่การใช้จ่ายอาจจะลดน้อยลงไปเนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจ โดยคาดว่าจะมีเงินสะพัดในเทศกาลนี้ไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท นักท่องเที่ยวยังคงมีความมั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยของ จ.สงขลา จึงเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว โดยหลังจากนี้ไปก็จะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานเทศกาลถือศีลกินเจ ต่อเนื่องไปจนถึงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
CR:ภาพนายกฯจาก พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ
เตือนศก.เสียหาย หมื่นล้านบาท - ผลกระทบชายแดนไทยกัมพูชา
...
ไหหลำอพยพปชช.นับหมื่น หนี 'ไต้ฝุ่นหวู่ติ๊บ' เคลื่อนเข้าใกล้
...
รุมประณามอิสราเอล! นานาชาติ เหตุโจมตีอิหร่านกระทบความมั่นคงทั้งภูมิภาค
...
ข่าวทั้งหมด
