*รอบวัน:ไม่ห้ามชาวนาทำนาปรัง/ม.กระตุ้นอสังหาริมทรัพย์/คุกตลอดชีวิตแท็กซี่ยิงเจ้าของหอพัก/จับโรมาเนียสกิ่มมิ่งATM

24 กันยายน 2558, 08:56น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.



++++กระทรวงเกษตรฯ ระดม 9 หน่วยปฏิบัติการ ฝนหลวง เร่งเติมน้ำเข้าเขื่อนในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนหมดฤดูฝนใน 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารกระทรวง ว่าตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. เจ้าหน้าที่กรมชลประทานจะลงพื้นที่ 22 จังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่มีความเสี่ยงจะได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้น เพื่อชี้แจงถึงแผนการบริหารจัดการน้ำ และสร้างความเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ประชาชนในพื้นที่และ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่มีอำนาจดูแลสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า 335 แห่ง เพื่อให้ปฏิบัติตามแผนบริการจัดการที่กำหนดเอาไว้



++++ในปีนี้รัฐบาลไม่ได้ประกาศงดหรือห้ามทำนาปรัง แต่จะใช้วิธีการเข้าไปสร้างความเข้าใจกับเกษตรกรว่าน้ำในเขื่อนมีน้อย จึงขอความร่วมมืออย่าทำนาปรังเพราะทำแล้วจะมีปัญหาอื่นๆตามมามีโอกาสจะเสียหายสูงมาก ให้ทำกิจกรรมอื่นเลี้ยงกบ เลี้ยง หรือเลี้ยงอะไรอย่างอื่นที่ใช้น้ำน้อยแทน   ส่วนเกษตรกรจะฝืนทำนาต้องรับความเสี่ยงเอาเอง ซึ่งปัจจุบันมีบางพื้นที่เริ่มทำไปแล้ว  



+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่70 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ช่วงวันที่ 23 กันยายน-1ตุลาคม ขณะที่ นายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียของฮิวแมนไรท์วอทช์ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กดดัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนและคืนอำนาจให้รัฐบาลพลเรือนโดยเร็วที่สุด และขอให้ผู้นำประเทศต่างๆ พูดอย่างตรงไปตรงมา ในโอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะขึ้นกล่าวต่อที่ประชุม ที่มหานครนิวยอร์ค ในวันที่ 29 ก.ย.นี้



++++พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯ ตั้งใจที่จะไปเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ เพื่อย้ำถึงเจตนารมณ์ทางการเมืองของไทย ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ไทยยังคงเป็นเพื่อนสมาชิกที่เข้มแข็งและพร้อมที่จะร่วมมือกับสหประชาติเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยื่น และทุกประเทศจะได้รับประโยชน์จากการพัฒนาร่วมกัน



+++ส่วนความคืบหน้าในการร่างรัฐธรรมนูญนั้น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตั้งคณะทำงานติดตามวิเคราะห์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2558 ที่ถูกคว่ำโดยสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)ว่า คณะทำงานที่ตั้งขึ้นมี 3-4 คน ซึ่งมีการส่งรายงานส่วนหนึ่งมาบ้างแล้ว เพื่อการวิเคราะห์ว่า การที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้น มีเหตุผลอะไร



++++ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการเสนอรายชื่อบุคคลที่จะมาเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อเสนอชื่อให้กับนายกรัฐมนตรี โดยจะเป็นข้าราชการ อดีตข้าราชการที่มีความรู้ด้านกฎหมาย ส่วนรายชื่อกรธ.นั้นตนได้เห็นบ้างบางส่วนแล้วแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องรอให้มีการเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาก่อน



+++รัฐบาล หามาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์  นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า ภายใน 2 สัปดาห์จะสรุปมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ปัญหาที่แท้จริงของภาคอสังหาริมทรัพย์คือผู้ซื้อบ้านกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ไม่ผ่าน คนอยากได้บ้านมีมาก แต่เศรษฐกิจไม่ดี ธนาคารพาณิชย์จึงเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ เบื้องต้นได้ให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ไปหามาตรการเพื่อดูแลลูกค้ากลุ่มนี้ จะเป็นการเติมเต็มส่วนที่ตลาดขาดอยู่ โดยยอมรับว่า ธอส.ก็จะมีความเสี่ยงหนี้เสียเพิ่มขึ้น ซึ่ง ธอส.จะต้องไปบริหารลูกค้าดีของธนาคารเพื่อหารายได้มาเฉลี่ยกับส่วนที่จะเสียหาย



สำหรับความคืบหน้าเรื่องพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา ไม่ได้ยุติหรือทิ้งเรื่องดังกล่าว แต่การออกกฎหมายต้องให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งมีหลายทางเลือก เช่น แนวทางการเก็บภาษีของเก่า ก็ให้ไปศึกษาเพิ่มเติมและจะทำให้เสร็จภายในปีนี้ จะได้ทำให้คนที่เกี่ยวข้องไม่เกิดความกังวล



++++มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น วงเงิน 1.36 แสนล้านบาท ที่ออกมาก่อนหน้านี้ จะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ 0.4% แต่ทั้งปีจะโตเท่าไหร่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะรัฐบาลชุดนี้มาดูแลไม่ให้เศรษฐกิจทรุดไปกว่าเดิม ไม่ได้มาปรับจีดีพีให้สูงขึ้น แต่มาช่วยประคองให้ดีขึ้นเท่านั้น ยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้เติบโตได้ดีกว่าปี 2557 ที่จีดีพีโต 0.9% ซึ่งปีนี้ครึ่งปีแรกจีดีพีเติบโตไปแล้ว 2.9% แต่คนยังรู้สึกว่าเศรษฐกิจไม่ดี ดังนั้นตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีไม่ได้ตัดสินเสมอไปว่าความเป็นอยู่ของประชาชนจะดี



+++ส่วนการต่ออายุมาตรการลดหย่อนภาษีกองทุนหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) ขณะนี้กำลังไปศึกษาความเหมาะสมว่าจะต่ออายุเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ตลาด หรือปรับเงื่อนไขเพื่อป้องกันให้ผู้มีรายได้มากไม่ใช้เป็นช่องทางหักลดหย่อนรายได้เพิ่มขึ้น ขณะนี้ไม่มีแนวคิดจะปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ที่ปัจจุบันคงอยู่ที่ 7% ซึ่งจะต้องทบทวนปีต่อไปหลังจากที่ต่ออายุไปแล้ว หากสามารถผลักดันให้เกิดการชำระเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (อีเปย์เมนต์) และการทำให้ธุรกิจเหลือบัญชีชำระภาษีแค่บัญชีเดียวได้ ก็จะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น เป็นการอุดช่องโหว่เลี่ยงภาษี โดยไม่ต้องขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะมีความชัดเจนในอีก 2-3 เดือน



+++แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาด อสังหาฯปี2558 ชะลอตัว โครงการเปิดใหม่ลดลง แต่จะเห็นการนำโครงการที่แล้วเสร็จเหลือขาย มาดั๊มพ์ราคาหรือจัดโปรโมชั่น อสังหาฯปัจจุบัน มีแนวโน้มล้นตลาดในบางทำเล เช่น ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบางซื่อบางใหญ่ (สายสีม่วง) และอ่อนนุชแบริ่ง เนื่องจากมีดีมานด์และซัพพลายไม่สมดุลกัน รวมถึงราคาที่ดินที่เพิ่มสูง ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยกลุ่มตลาดระดับล่างไม่สามารถซื้อได้    ทำเลที่มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการ ได้แก่ จตุจักรพหลโยธิน รัชดาภิเษก-พระราม9 ฝั่งธนบุรี สุขุมวิทตอนต้น เพราะเป็นทำเลใกล้เมือง เป็นแหล่งงาน มีโครงการเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ และมีสำนักงาน



+++นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์อสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า แนวโน้มระบบ   โครงข่ายรถไฟฟ้า ทำให้เกิดการขยายตัวของความเป็นเมืองอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเกิดนิวซีบีดีใหม่ จาก สุขุมวิท สีลม สาทร และวิทยุ โดยใน 6 ปีข้างหน้าเมื่อรถไฟฟ้าสายใหม่ๆสร้างเสร็จ ทำให้มีสถานีเกิดขึ้นมากถึง 200 สถานี และมีจุดเชื่อมต่อมากกว่า 20 จุด จากปัจจุบันมี 3-4 จุดเชื่อมต่อ โดยเฉพาะบางซื่อ จะกลายเป็นจุดเชื่อมสามเหลี่ยมทองคำในเชิงจราจรในอนาคต



+++ส่วนการที่รัฐบาลอนุมัติโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ในช่วงต้น  มีพื้นที่แนวก่อสร้างล้ำเข้าไปในพื้นที่ราชการ จึงไม่สามารถพัฒนาในเชิงพาณิชย์ได้ แต่จะเริ่มเห็นการพัฒนาโครงการได้ช่วงอำเภอลำลูกกาเป็นต้นไป แต่ในบริเวณดังกล่าวนิยมที่อยู่อาศัยแนวราบ แต่ยังสามารถพัฒนาคอนโดมิเนียมโลว์



+++วันนี้ ต้องติดตาม ที่ประชุม คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะมีมติอย่างไร หลังองค์คณะไต่สวนมีมติให้ถอดถอนนายจุติ ไกรฤกษ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้ออกจากตำแหน่งกรณีดำเนินการให้มีการลงนามสัญญาร่วมดำเนินธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G ระหว่างบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT กับบริษัท ทรู คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) และสัญญาการติดตั้งโครงข่าย 3G ระหว่างบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT กับกิจการร่วมค้าเอสแอลคอนซอเดียม และนายจุติมารับทราบข้อกล่าวหา 



+++นายจุติยังกล่าวชี้แจง ข้อเท็จจริงคือ มีการยกเลิกการซื้อบริษัทที่มีคลื่น โครงการนี้ได้มีการอนุมัติไปแล้วตั้งแต่ก่อนตนเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีไอซีที มีผู้เสนอบอร์ด CAT ว่าหากซื้อจริง รัฐจะได้เพียงความถี่ แต่เป็นเทคโนโลยีที่ล้าสมัย และกำลังจะตกรุ่นในขณะนั้น มีเพียง 4-5 ประเทศที่ยังใช้อยู่ ที่เหลือไปใช้ 3G กันหมดแล้ว และราคาที่ตกลงกันก่อนหน้าก็สูงมาก ทางบอร์ด CAT จึงได้เสนอให้ตนนำเรื่องยกเลิกการซื้อบริษัทเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้พิจารณา ซึ่งก็ได้มีมติเห็นชอบ เพียงเท่านั้น ที่เหลือเป็นเรื่องของบอร์ด CAT และไม่ได้เร่งรีบเพราะใช้เวลา 2-3 เดือน ก่อนเสนอให้ ครม. รับทราบการยกเลิกสัญญาซึ่งอยู่ในอำนาจของบอร์ด CATในสมัยตนสามารถประมูลได้ถูกลงกว่าเดิมถึงกว่า 1 หมื่นล้านบาท และมั่นใจว่าจะสามารถแก้ต่างข้อกล่าวหาต่างๆ ได้อย่างแน่นอน



+++กรณีแก๊งหมอผีแอบตัดหัวผีตายโหงที่ฝังในป่าช้าวัดนาเมืองไทย อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี โดยตัดเอาหัวจากศพของนายธีระพงษ์ ศรีบุรินทร์ อายุ 27 ปีที่ผูกคอตาย ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม น.ส.บังอร ศรีนานาม อายุ 27 ปี ลูกศิษย์สาวทอมของหมอผีตัวการใหญ่ สอบสวนยอมรับสารภาพว่าร่วมกับ 2 หมอผีเข้าไปขโมยหัวกะโหลกผีตายโหงเพื่อทำปั้นเหน่งหรือหน้าผากผีตายโหงตามออเดอร์สั่งซื้อ ศาล จังหวัดอุดรธานีได้อนุมัตินายอาทิตย์ คงกะเรียน หรืออาจารย์อ๋อง และนายณรงค์ ภูมิภูชิต หรืออาจารย์อึ่ง พ.ต.ต.ประเพียร กุมผัน สว.สส.สภ.นาด้วง จ.เลย พร้อมกำลังนำหมายศาลจับกุมนายณรงค์  ควบคุมตัวไปสอบสวน  เบื้องต้นนายณรงค์สารภาพทำตามคำสั่ง เพราะมีนายทุนซึ่งไม่สามารถบอกชื่อได้ว่าจ้างให้นำหัวกะโหลกผีตายโหงไปทำพิธีขอหวย หากทำให้ถูกหวยตนจะได้ค่าจ้าง 1 ล้านบาท ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะถูกควบคุมตัวนายณรงค์หรืออาจารย์อึ่งได้โทรศัพท์หานายอาทิตย์หรืออาจารย์อ๋อง แจ้งว่าถูกจับแล้ว ขอให้มอบตัว ซึ่งนายอาทิตย์บอกว่าจะเข้ามอบตัวที่ กก.สส.ภ.จ.อุดรธานี ในเร็วๆนี้



+++ศาลนนทบุรี ตัดสินประหารชีวิตคนขับรถแท็กซี่ ที่ก่อเหตุขับรถพุ่งชน ตร.จร.สภ.บางใหญ่ บริเวณปากซอยวัดส้มเกลี้ยง ก่อนลงไปชิงอาวุธปืนไปยิง 2 ผัวเมีย เจ้าของหอพักที่เช่าอยู่ เสียชีวิตสยอง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 เม.ย. ก่อนเจ้าตัวจะเข้ามอบตัวในวันรุ่งขึ้น แต่เจ้าตัวให้การรับสารภาพ จึงลดโทษให้เหลือ จำคุกตลอดชีวิต ด้านญาติคนตาย ชี้ไม่คุ้มกับที่ครอบครัวต้องสูญเสียถึง 2 ชีวิต เตรียมยื่นอุทธรณ์ให้ศาลลงโทษหนักกว่านี้ ศาลอ่านคำพิพากษาคดี นายอนุพงศ์ เรืองสวัสดิ์ อายุ 27 ปี ขับรถแท็กซี่ชนด.ต.จักรี ผลาสินธุ์ ตำรวจจราจรของ สภ.บางใหญ่ ที่ยืนอำนวยการจราจรอยู่ ที่หน้าวัดส้มเกลี้ยงได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะแย่งปืนพกขนาด 9 ม.ม. มายิงนางสังวาลย์ แท่นจันทา อายุ 50 ปี และนายสมชาย แท่นจันทา อายุ 52 ปี สองสามีภรรยา เจ้าของหอพัก บ้านจันทรา



+++ด้านนางพรพรรณ กาสินธุ์ อายุ 55 ปี พี่สาวผู้เสียชีวิต ซึ่งเดินทางมาฟังคำตัดสิน ของศาล กล่าวว่า แม้ศาลจะตัดสินประหารชีวิตนายอนุพงศ์ แต่เมื่อเขารับสารภาพได้ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต คิดว่าไม่คุ้มกับที่ครอบครัวพี่น้องต้องสูญเสียไปถึง 2 ชีวิต รับไม่ได้ เราจะอุทธรณ์ดูว่าจะมีทางให้ได้รับโทษหนักกว่านี้ได้หรือไม่ กำลังขอคัดคำพิพากษาเอาไปยื่นอุทธรณ์ตามสิทธิของเราแต่อยากให้สื่อมวลชนทราบว่า น้องเขยและน้องสาวตนไม่ใช่คนที่ไปรุกรานผู้เช่าห้องพัก อย่างที่นายอนุพงศ์ จำเลยไปให้ร้าย คนตายแล้วเขาไม่มีโอกาสมาพูดชี้แจงอะไร ขอความยุติธรรมให้เขาด้วย



+++ด้าน ด.ต.จักรี เจ้าของอาวุธปืน ที่นายอนุพงศ์ขับขี่แท็กซี่ พุ่งชนกล่าวว่า ตนได้รับบาดเจ็บสาหัสหมดสติไป นอนรักษาตัวนานกว่า 2 เดือน ขาหักสองท่อน เดินไปไหนมาไหนต้องมีคนคอยช่วยเหลือ ขณะนี้ร่างกายฟื้นมาประมาณ 80% มาทำงานอยู่ที่ห้องจราจร ได้ทำงานด้านธุรการ ยังไม่สามารถออกไปอำนวยความสะดวกการจราจรได้ตามปกติ



+++ตร.จับ นายไอออน มาเซล มาร์คู อายุ 35 ปี และนายคลาวดิโอ มิไฮ ชิราเบา อายุ 44 ปี สัญชาติโรมาเนีย พร้อมของกลางบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม 9 ใบ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คจำนวน 1 เครื่อง โดยสามารถจับกุมได้บริเวณภายในปั้มน้ำมันปิโตรนาส ซ.ลาดพร้าว 15 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร หลังมีผู้เสียหายหลายสิบรายในพื้นที่อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ถูกคนร้ายขโมยเงินในบัญชีผ่านบัตรเอทีเอ็ม และได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.บางใหญ่ โดยเบื้องต้นคาดน่าจะถูกสกิมมิ่งบัตร    จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันก่อเหตุจริง โดยได้เดินทางเข้ามายังประเทศไทยผ่านช่องทางตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 13 ก.ย.  และได้ซื้อข้อมูลบัตรเครดิต หรือข้อมูลที่การสลิมเมอร์ และบัตรเอทีเอ็มปลอมมาจากคนไทย ก่อนที่นำบัตรเอทีเอ็มปลอมออกตระเวนกดเงินสดจากตู้ต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากนั้นจะโอนเงินกลับประเทศ



+++ส่วนวิธีการป้องกันหรือระมัดระวังไม่ให้ตกเป็นเหยื่อขบวนการนี้ วิธีการสังเกตง่าย ๆ หากไปใช้บริการตู้เอทีเอ็มแล้วพบความผิดปกติ 1.ช่องเสียบบัตร และแป้นกดตัวเลข ว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่ โดยช่องเสียบบัตรต้องมีไฟสีเขียวกะพริบเพื่อแสดงว่า เครื่องเอทีเอ็มดังกล่าวได้ติดตั้งเครื่องป้องกันไว้แล้ว ขณะเดียวกัน แป้นกดตัวเลขต้องไม่มีความหนา ซึ่งหากสงสัยไม่ควรใช้เครื่อง และควรรีบแจ้งให้ธนาคารเจ้าของตู้ทราบทันที 2. สังเกตความผิดปกติบริเวณตู้เอทีเอ็ม เช่น กล่องใส่โบรชัวร์ เพราะอาจใช้เป็นจุดซ่อนกล้องรูเข็ม เพื่อแอบดูการกดรหัสบัตรขณะใช้งาน 3.ควรใช้มือบังแป้นตัวเลขขณะทำรายการทุกครั้ง และ 4.เป็นไปได้ควรเปลี่ยนรหัสอย่างสม่ำเสมอ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันใช้หรือมีไว้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมาย และขยายผลติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือต่อไป

ข่าวทั้งหมด

X