หลังศาลจังหวัดมีนบุรีอนุมัติหมายจับชายชาวต่างชาติไม่ทราบชื่อ ไม่ทราบสัญชาติ อายุประมาณ 30 ปี สูงประมาณ 170 เซนติเมตร ตามภาพสเก็ตซ์จากกล้องวงจรปิด ในข้อหาร่วมกันมีระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ ร่วมกันครอบครองยุทธภัณฑ์ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ในคดีระเบิด พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ชายที่ถูกหมายจับคนดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร โดยเป็นผู้เลือกซื้ออุปกรณ์ประกอบวัตถุระเบิด ภายในร้านค้าแห่งหนึ่ง ในซอยสุขุมวิท 44/2 เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 4 สิงหาคม 2558
พล.ต.ท. ประวุฒิ กล่าวสรุปว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด 2 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวน 16 หมายจับ มีผู้ต้องหา จำนวน 15 ราย สามารถควบคุมตัวได้ 2 ราย อยู่ระหว่างติดตามจับกุม 13 ราย ซึ่งนายเมียไรลี ยูซุฟู เป็นบุคคลเดียวที่ถูกออกหมายจับ จำนวน 2 สถานีตำรวจ
ส่วนกระแสข่าวที่ทางการมาเลเซียจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 8 คน และมี 4 คน เกี่ยวข้องกับการนำผู้ต้องหาในคดีระเบิดที่กรุงเทพฯ เข้าประเทศมาเลเซีย ยังไม่ทราบรายละเอียด เพราะยังไม่ได้รับการประสานจากทางการมาเลเซีย และยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าเป็นผู้ต้องสงสัยกลุ่มเดียวกับที่ทางการไทยต้องการหรือไม่
สำหรับการเข้าชี้แจงทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยในวันนี้ ได้พยายามทำความเข้าใจ และสร้างความเชื่อมั่น ป้องกันไม่ให้มีการก่อเหตุซ้ำ รวมถึงชี้แจงมาตรการดูแลความปลอดภัยกับนักท่องเที่ยวตามสถานที่สำคัญ รวมถึงการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ชี้แจงแผนการนำเทคโนโลยีไบโอเมตริคมาใช้ ซึ่งหลายประเทศมีความพอใจ โดยอาจมีบางประเทศลดระดับการเตือนภัยลง โดยในวันนี้ทูตตุรกีไม่ได้เดินทางมาด้วย แต่ก็ยังมีการประสานงานเรื่องการตรวจหนังสือเดินทาง ที่เจ้าหน้าที่ยึดได้จากพูลอนันต์อพาร์ทเม้นท์ โดยไทยจะไม่ส่งหนังสือเดินทางไปตรวจสอบที่ประเทศตุรกี อาจจะใช้วิธีส่งตัวแทนร่วม
ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข