นายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐ เปิดเผยว่า กองทัพรัสเซียที่พบในซีเรียมีภารกิจจำกัดขอบเขตอยู่เพียงการปกป้องกองกำลังของตนเองในซีเรียเท่านั้น จากที่ก่อนหน้านี้มีรายงานและภาพถ่ายดาวเทียมที่พบว่า รัสเซียขยายภารกิจทางทหารในซีเรียด้วยการส่งกำลังทหารเข้าไปประจำการในค่ายทหารเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง ซึ่งทำให้สหรัฐอเมริกามีความเป็นกังวล อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นายแคร์รี่เปิดเผยว่า สหรัฐอเมริกาพร้อมที่จะทำงานร่วมกับรัสเซียเพื่อยุติสงครามที่เกิดขึ้นในซีเรีย และเห็นว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ที่มีท่าทีชัดเจนมาตลอดว่า ให้การสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด ผู้นำซีเรีย ควรเปลี่ยนจากการใช้ความแข็งกร้าวมาสนับสนุนกระบวนการเจรจาทางการทูตเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปมากกว่า 200,000 คนและอีกนับล้านคนต้องกลายเป็นผู้อพยพลี้ภัย
นายแคร์รี่ยังกล่าวด้วยว่า การที่รัสเซียสนับสนุนประธานาธิบดีอัสซาด ส่งผลให้ประธานาธิบดีอัสซาดไม่ให้ความสำคัญกับการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งจะทำให้ความขัดแย้งนี้ยาวนานต่อไป โดยก่อนหน้านี้ การเจรจาสันติภาพซีเรียที่มีสหประชาชาติเป็นคนกลางประสบความล้มเหลวเพราะไม่สามารถทำให้คู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงกันได้ และในขณะเดียวกันยังพบการเคลื่อนไหวของกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ร่วมด้วยการที่รัสเซียเข้าแทรกแซงทางการทหาร เกิดวิกฤติผู้อพยพที่เดินทางเข้าสู่ยุโรป โดยในสัปดาห์หน้า นายแคร์รี่จะพบกับรัฐมนตรีการต่างประเทศของยุโรป และตะวันออกกลาง ในระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ซีเรียต่อไป
...F163...