หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าในที่ประชุมนายกรัฐมนตรีได้ปรารภเรื่องคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญและสภาขับเคลื่อนเพื่อการปฏิรูปประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าอยากให้ทุกคน เห็น ถึงผลสุดท้ายที่จะได้รับในการแก้ไขปัญหาและจะต้องทำอย่างไรให้ทุกคนสามัคคีกันรวมถึงไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนในอดีต ขณะเดียวกันขอให้ประชาชนมั่นใจว่านายกรัฐมนตรีจะพิจารณาผู้ที่มีความรู้ความสามารถมาทำหน้าที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญและสภาขับเคลื่อนเพื่อการปฏิรูปประเทศ โดยจะนำรายชื่อจากทุกภาคส่วนไปพิจารณาอย่างถ้วนที่ และใช้ดุลพินิจอย่างรอบคอบโดยเอาการแก้ปัญหาประเทศชาติเป็นที่ตั้ง
ในที่ประชุม นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ชี้แจงการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐบาลในปัจจุบันให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบว่า ปัจจุบันมีการระบายข้าวได้แล้ว 4.3 ล้านตัน จาก 18.7 ล้านตัน โดยระยะเวลาในการดำเนินการเรื่องข้าวมาทั้งสิ้น 427 วัน มีข้าวในสต๊อกทั้งสิ้น 18.7 ล้านตัน ซึ่งมีคณะกรรมการคอยทำหน้าที่ในการตรวจสอบ
สำหรับในสต๊อกข้าวของรัฐบาลนั้นมีข้าวดี และข้าวเสียปนกัน โดยข้าวในสต๊อกประกอบด้วยข้าวคุณภาพดี หรือ ข้าวเกรด E ข้าวหย่อนต่ำมาตรฐานแบ่งเป็น เกรด A ที่ตลาดยอมรับและสามารถขายได้ราคา ข้าวเกรดบี ที่เกรดต่ำลงมา หรือ เกรด B แต่ตลาดยังพอรับได้ สามารถนำมาใช้อุปโภคบริโภค ส่วนเกรด C ต่ำกว่ามาตรฐาน และข้าวเสียไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาตรวจแล้ว 2 โกดัง พบว่า ต้องใช้ระยะเวลาการดำเนินการค่อนข้างนานแต่จะให้น้อยที่สุดตามขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ พร้อมยืนยันว่าจะไม่เอาข้าวเสียมาปนกับข้าวดีเพื่อไม่ให้ผู้บริโภคเกิดความไม่มั่นใจ
ที่ประชุมยังได้อนุมัติวงเงินที่เหลือจากการเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการค้าข้าวในปีการผลิตข้าว 2557/2558 วงเงิน 385 ล้านบาท จาก 810 ล้านบาท เพื่อชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อกในปีการผลิต 2558/2559