*ครม.เห็นชอบแผนลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ของศธ.-ร่างกม.ป้องกันท้องในวัยรุ่น*

ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ครม.  พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เสนอแนวทางการบริหารจัดการเวลาเรียน "ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้" ให้ที่ประชุมรับทราบ โดยจะต้องทำใน 4 เรื่องคือ การปรับปรุงหลักสูตรการศึกษา ,กระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อสถานศึกษา ,การวัดและประเมินผล ,และการทบทวนหลังการปฏิบัติ เป็นหลัก และที่สำคัญที่จะต้องดำเนินการเพื่อเพิ่มการเรียนรู้ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา โดยเวลาเรียนในห้องเรียนเดิมเฉลี่ย 30 - 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่เวลาที่ปรับใหม่จะเหลือ 22 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่จะไม่ให้กระทบกับสาระสำคัญที่จำเป็นในการเรียน เพื่อนำเวลาที่เหลือไปทำกิจกรรมเพื่อเพิ่มทักษะในเรื่องต่างๆ

ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างกฎหมายการป้องกันและการแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวันรุ่น ซึ่งอัตราการตั้งครรภ์ในวันรุ่นมีจำนวนมากขึ้นทั่วโลก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่งกระทบต่อสุขภาพ ชุมชน สังคม ครอบครัวโดยรวม จึงได้มีการออกกฎหมายดังกล่าว โดยมีการกำหนดให้บุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 10-19ปี บริบูรณ์ มีสิทธิ์ได้รับข้อมูลข่าวสาร ตามสิทธิ์อนามัยเจริญพันธุ์ โดยให้สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนเรื่องเพศวิธีศึกษา ให้มีความเหมาะสมกับช่วงอายุและระดับการศึกษา  กำหนดให้มีการตั้งคณะกรรมการป้องกัน แก้ไข เยียวยาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น โดยจะมีรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย รัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตัวแทนเด็กและเยาวชนจากสภาเด็กเยาวชนแห่งประเทศไทย เข้ามาร่วมในคณะกรรมการนี้ด้วย

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า รัฐบาลพยายามสนับสนุนข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิต ซึ่งนายกรัฐมนตรีพยายามนำเสนอข้อมูลที่จำเป็นต่อประชาชนและคาดหวังให้เยาวชนที่ใช้สมาร์ทโฟนได้รับข้อมูลข่าวสารที่เป็น และนำไปบอกต่อให้ครอบครัวไม่ว่าจะเป็น ปู่ย่า ตายาย ได้รับทราบ ส่วนประชาชนที่ใช้โทรศัพท์มือถือธรรมดาไม่สามารถรับข้อมูลข่าวสารได้ จึงมีการสั่งให้หามาตราการช่วยเหลือ ซึ่งไทยใกล้จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนทุกอย่างจึงจำเป็นต้องมีความชัดเจน พร้อมขอให้ทุกภาคส่วนเร่งรัดและนำข้อมูลเข้ามาอยู่ในศูนย์กลางโดยเร็วที่สุด